"ธนดล" ตรวจที่ดินสนามกอล์ฟครอบครัว "อนุทิน" เผยโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย แต่ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป หากได้มาไม่ชอบต้องเพิกถอนถอน ด้านทนายโผล่สังเกตการณ์ จวกเป็นเด็กควรคิดให้เยอะ
วันที่ 18 ก.พ. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. นำทีมเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. และตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ หลังตรวจพบการออกโฉนดโดยไม่ชอบในพื้นที่กว่า 4 หมื่นไร่ ทับพื้นที่ ส.ป.ก. ในพื้นที่ 8 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลหนองสาหร่าย, ขนงพระ, หนองน้ำแดง, ปากช่อง, กลางดง, หมูสี, โป่งตาลอง, วังกะทะ และตำบลคลองม่วง อำเภอปากช่อง (เขาใหญ่) จังหวัดนครราชสีมา โดยได้ตรวจสอบรีสอร์ตดังเสร็จแล้ว 2 แห่ง
นายธนดล พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ต่อไปจุดที่ 3 ซึ่งถือว่าจุดนี้เป็นจุดไฮไลต์ที่หลายคนจับตา เนื่องจากเป็นสนามกอล์ฟของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทั้งสองคนเกิดวิวาทะไปมาในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายธนดลและคณะไม่ได้เข้าไปในสนามกอล์ฟแต่อย่างใด แต่ได้อยู่บริเวณด้านข้างของสนามกอล์ฟ ก่อนนำชาร์จมาอธิบายกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุที่ต้องตรวจสอบที่ดินดังกล่าว โดยบอกก่อนว่าสนามกอล์ฟดังกล่าวนี้ได้โฉนดมาแบบถูกต้องตามกฎหมายที่ดิน แต่ประเด็นที่เราต้องตรวจสอบคือ สนามกอล์ฟนี้อยู่ติดกับนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งมีบางส่วนงอกออกมา โดยสนามกอล์ฟดังกล่าว ที่ดินส่วนหนึ่งอยู่ในเขตนิคมฯ จำนวน 59.66 ไร่ และอีกส่วนอยู่ในเขต ส.ป.ก. จำนวน 488.26 ไร่ แม้ว่าจะได้โฉนดมาถูกต้อง แต่ต้องตรวจสอบว่าโฉนดที่ได้มาที่ไปที่มาเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดภาพถ่ายดาวเทียมตั้งแต่ปี 2496 ที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่า ก่อนมีความเปลี่ยนแปลงด้วยมาจนถึงปัจจุบันจัดทำเป็นสนามกอล์ฟ
...
นายธนดล ยืนยันว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการตรวจสอบตามหน้าที่ จากนี้เป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. ต้องให้ 2 หน่วยงานนี้เป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบ แม้ว่าปัจจุบันจะได้โฉนดมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่สำคัญเราต้องย้อนตรวจสอบและหากผลออกมาว่าได้มาโดยไม่ชอบ ก็แค่เพิกถอน
เมื่อถามย้ำว่า ล่าสุดมีข้อมูลการได้มาของโฉนดที่ดินสนามกอล์ฟดังกล่าวมากน้อยแค่ไหนนั้น นายธนดลบอกว่า ยังไม่มีข้อมูล แต่ทราบว่าทั้งหมดมีโฉนด
นายธนดล ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การออกมาเคลื่อนไหวและตรวจสอบครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง นายธนดล กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ทำแค่นี้ ผมทำทั้งหมดที่งอกมาในที่ ส.ป.ก. สนามกอล์ฟจุดอื่นก็มีเช่นกัน เราไม่ได้ตรวจสอบแค่ของนายอนุทิน ทุกอย่างมันมีขั้นตอนของกฎหมายจะเป็นเรื่องกลั่นแกล้งใครแบบนั้นไม่มีทาง
เมื่อถามอีกว่า เรื่องนี้จะสะเทือนถึงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายธนดล กล่าวว่า ประเด็นทางการเมืองผมไม่อยากตอบเลย เอาเพียงแค่ว่าเราทำหน้าที่ยึดที่ ส.ป.ก. คืนให้ ส.ป.ก. อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้มันถูกต้องเท่านั้นเอง
นายธนดล ยังเล่าย้อนเหตุการณ์ที่เจอนายอนุทิน ซึ่งตัวเองได้เข้าไปสวัสดี และว่าขอโทษที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากทำตามหน้าที่ นายอนุทิน ยังตอบกลับว่า เอกสารถูกต้อง อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ดำเนินการได้เต็มที่ แต่ถ้าถูกต้องให้ความเป็นธรรมให้กับเขาด้วย
ส่วนที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ระบุว่า นายธนดล แวะทักทายและขอโทษแบบนอบน้อมนั้น ภาพแบบนี้แสดงว่าเราเป็นฝ่ายยอมแล้วหรือไม่ นายธนดล บอกว่า มันไม่เกี่ยวข้องกันเลยมันเป็นเรื่องของเด็กกับผู้ใหญ่ ท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็ไปไหว้ ไปสวัสดีเท่านั้นเอง ยืนยันไม่มีดีลอะไรกันเลย และจากนี้เดินหน้าต่อเต็มสูบแน่นอน
เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีใบสั่งหรือสั่งล็อกเป้าหรือไม่ นายธนดล ร้องโอ้โห และว่าไม่มีใบสั่งอะไรทั้งนั้น เราแค่มาตรวจสอบ ส่วนตัวก็ไม่สามารถห้ามความคิดคนได้ ใครจะคิดว่าเป็นประเด็นการเมืองก็คิดไป ทำไมไม่มองถึงเรื่องการทำงานบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามองบทสรุปสำหรับที่ดินสนามกอล์ฟอย่างไรบ้าง นายธนดล กล่าวว่า "จุดจบถ้าออกมาโดยไม่ชอบ ก็ต้องเพิกถอน ถ้าชอบก็ถูกต้องตามกฎหมายไม่เห็นมีอะไร"
ส่วนในอนาคตหากนายอนุทินฟ้องร้องตามกฎหมาย คิดเห็นเรื่องนี้ยังไงบ้าง นายธนดล บอกว่า "ก็ไม่เป็นไร ถ้าผมทำอะไรให้คุณอนุทินเสียหาย ถ้าฟ้อง ผมก็พร้อม อย่างเรื่องภูนับดาว ก็ถูกฟ้องมา 7 คดี แต่ไม่ได้บอกใคร จะโดนฟ้องอีกก็ไม่เป็นไร ก็ตามกฎหมาย แต่ก็บอกไปแล้วเช่ากันว่า ที่ดินครอบครัวคุณอนุทินถูกต้องตามกฎหมาย"
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายธนดล ยืนให้สัมภาษณ์อยู่ นายคารม พลกลาง อดีต สส. ภูมิใจไทย และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความที่ดูแลสนามกอล์ฟ ได้มามายืนสังเกตการณ์ด้วย
โดยนายชนินทร์ ระบุว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้มีโฉนดที่ดินถูกต้อง เรื่องนี้จะต้องคิดให้มากก่อนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ และตนเองขอตำหนิเรื่องเดียวคือตราบใดที่หน่วยราชการยังไม่ชัดเจน ก็ไม่ควรพูดเพราะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ
...
“การที่มาเปิดประเด็นเดินหน้าเพิกถอนสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. อย่างเดียวโดยไม่ฟังความเป็นมา ส่งผลกระทบต่อราคาที่ดิน ซึ่งธนาคารตีเป็นทรัพย์สินด้อยค่า ก็ไม่มีใครมารับผิดชอบชีวิตของพวกเขา”
ส่วนเรื่องการได้ที่ดินมาโดยชอบหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของหน่วยงานราชการไม่ใช่เรื่องของผู้ทรงสิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะเราซื้อมาโดยสุจริตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกโฉนด คนที่มาซื้อที่ดินต่อจากมืออื่นก็ไม่รู้ จะดำเนินการอะไรก็ต้องรอให้ระบบทุกอย่างลงตัวก่อน สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นโดยนักการเมือง และนักการเมืองต้องคิดถึงประเทศเป็นหลักไม่ใช่เอาเรื่องส่วนตัวหรือความต้องการได้แสงมาแลกความเสียหายของอำเภอปากช่อง
ส่วนความเสียหายของสนามกอล์ฟ ตอนนี้ได้รับความเสียหายเรื่องความเชื่อมั่นในการลงทุน เพราะถูกตีเป็นทรัพย์สินด้อยค่า จึงอยากให้นายธนดล คิดให้เยอะ ยังเป็นเด็กอยู่ต้องคิดแบบผู้ใหญ่ แล้วเรื่องนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สนามกอล์ฟถูกตรวจสอบเรื่องการได้มาซึ่งที่ดิน เพราะตลอดระยะเวลาที่สนามกอล์ฟนี้ดำเนินธุรกิจมา ก็ไม่เคยมีเรื่องไหนมากระทบ
และหากท้ายที่สุดการตรวจสอบออกมาว่า สนามกอล์ฟได้ที่ดินมายังถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย บริษัทก็ไม่คิดที่จะฟ้องกลับ แต่หากตรวจสอบแล้วที่ดินแห่งนี้ได้มาโดยมิชอบ ก็พร้อมให้ดำเนินการตามกฎหมาย
นายชนินทร์ ยังกล่าวอีกว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีไว้เพื่อให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้เข้ามาพัฒนาแล้วต่อมาถูกแปลงเป็นโฉนดภายในเงื่อนไขที่กำหนดจากนั้นได้ขายออกไปเพื่อให้ประชาชนได้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่มาพัฒนาที่ดิน แล้วนักลงทุนก็เข้ามา นี่คือเป้าหมายของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ทำให้ประชาชนที่เข้ามาในช่วงเวลานั้นสามารถออกโฉนดได้ตามเงื่อนไขทุกอย่าง วันนี้ผู้ลงทุนเข้ามาลงทุนก็เป็นไปตามเป้าหมายของคนที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้และไปถึงนิคมอื่นๆ ต่อไป
...
ส่วนประเด็นว่าที่ดินตรงนี้งอกมาจากเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองหรือไม่นั้น ก็เป็นหน้าที่ของกรมที่ดินที่จะไปตรวจสอบ และหากที่ดินทั้ง 40,000 กว่าไร่ไม่ชอบตามกฎหมาย ก็ต้องเพิกถอน แต่คนที่รับผิดชอบต้องเป็นกรมที่ดิน แล้วจะให้เอาที่ดินกลับไปปลูกมันปลูกเผือก ก็คงไม่ใช่ทั้งที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นายชนินทร์ ยังย้ำด้วยว่า ที่ดินสนามกอล์ฟแห่งนี้ ไม่ใช่ของนายอนุทิน ชาญวีรกุล แต่มีกลุ่มธุรกิจที่เป็นเจ้าของโฉนดมาร่วมกับครอบครัวของนายอนุทิน โดยที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์อะไรเลย