ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 บุกจับ "พ่อค้ายาข้ามชาติ" กลางสี่แยกไฟแดงปะคำ จ.นครราชสีมา พร้อมยึดของกลางยาไอซ์ 599 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 500 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการจู่โจมจับกุมผู้ต้องหาค้ายาไอซ์ คาแยกไฟแดงปะคำ ต.สระพระ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง เป็นยาไอซ์ 599 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท พร้อมของกลางอีกหลายรายการ
โดยเหตุเกิดจากการสืบทราบของชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พ.ต.ท.คำพู พลอยผักแว่น รองผกก.กองกำกับการสืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ว่า จะมีพ่อค้าลำเลียงยาเสพติด ประเภทยาไอซ์จำนวนมาก ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงจากประเทศเพื่อนบ้าน มาที่ จ.บึงกาฬ เพื่อไปส่งให้ลูกค้าย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และพล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้วางแผนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามจับกุมตัวกลุ่มพ่อค้าขนยาเสพติดดังกล่าว

...
โดยตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 พบรถกระบะต้องสงสัย มีผ้าใบคลุมด้านหลังตามที่สายรายงาน ขับมาตามถนนสุรนารายณ์ สายหนองบัวโคก จ.ชัยภูมิ - นครราชสีมา เมื่อรถขับมาถึงแยกไฟแดงบ้านปะคำ ต.สระพระ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา และรถคนร้ายจอดติดไฟแดงอยู่ จึงได้ใช้รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจประกบและจู่โจมเข้าจับกุมคนขับทันที ทราบชื่อคือ นายอภิชาต หรือ รัก พรรณศรี อายุ 41 ปี ชาว ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เเละยึดของกลาง
ประกอบด้วย ยาไอซ์ จำนวน 599 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 500 ล้าน ที่บรรทุกใส่กระสอบปุ๋ยและถุงดำซีนด้วยเทปกาวไว้กระบะด้านหลัง โดยใช้ผ้าใบคลุมเอาไว้, รถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แชมป์ สีเทา ทะเบียน 1ฒง 3577 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ติดสติ๊กเกอร์ที่ด้านข้างและท้ายรถ เป็นชื่อบริษัทให้บริการรับขนย้ายสิ่งของเร่งด่วน เพื่อจะตบตาเจ้าหน้าที่, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO สีม่วง-ขาว จำนวน 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 เล่ม, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม, ผ้าใบสีเขียวขี้ม้า ขนาด 3x4 เมตร จำนวน 1 ผืน, ใบเสร็จรับเงินค่าซื้อผ้าใบ จำนวน 1,800 บาท ที่คนร้ายซื้อผ้าใบคลุมปกปิดสารไอซ์ท้ายรถกระบะบรรทุก
ซึ่งตำรวจได้นำตัวนายอภิชาต พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา "ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนชนิดเกล็ดหรือสารไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย" ซึ่งต่อมา ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ขยายผลติดตามจับกุมแก๊งค้ายาไอซ์กลุ่มนี้

ล่าสุด วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา ได้แถลงข่าวคดีนี้ ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
โดยนำของกลางทั้งหมดมาแสดง และเปิดเผยพฤติการณ์ของแก๊งค้ายาไอซ์ข้ามชาติแก๊งนี้ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคายาไอซ์ที่จำหน่ายให้กลุ่มผู้เสพภายในประเทศไทย อยู่ที่กิโลกรัมละ 200,000 บาท ถ้าหลุดออกไปต่างประเทศจะจำหน่ายได้ถึงกิโลกรัมละ 1,000,000 บาทไทย สำหรับยาไอซ์ที่ตำรวจยึดได้รายนี้ มีมากถึง 599 กิโลกรัม ถ้าส่งออกต่างประเทศราคาสูงถึงเกือบ 600 ล้านบาท จึงเป็นสิ่งที่ล่อใจนักค้ายาเสพติดอย่างมาก.