แม่สาวดิ่งสะพานภูมิพล กังวลใจที่ยังไม่พบร่างลูกสาว เผยลางก่อนเกิดเหตุ รับตอนนี้เป็นห่วงหลานจะอยู่อย่างไร เพราะขาดแม่ที่เป็นเสาหลัก
จากกรณี โลกโซเชียลประกาศตามหาญาติของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่จอดรถบนสะพานภูมิพล ก่อนข้ามทางกั้นออกไป เพื่อปลิดชีพตัวเอง ซึ่งพลเมืองดีพยายามที่จะช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ต่อมาทราบชื่อหญิงสาวคนดังกล่าว คือ น.ส.ปัณฑารีย์ หรือโจ้ สิทธิรดาพัฒน์ อายุ 40 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาแต่ยังไม่พบร่าง
ขณะที่ นางบุญเลี้ยง เยี่ยมรัมย์ อายุ 61 ปี แม่ของ น.ส.ปัณฑารีย์ และลูกสาววัย 12 ปี ซึ่งอยู่ที่บุรีรัมย์ มีความกังวลใจ เนื่องจากยังไม่พบร่างของ น.ส.ปัณฑารีย์
นางบุญเลี้ยง เล่าว่า ลูกสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อกว่า 15 ปีก่อน ในโรงงาน จ.สมุทรปราการ ที่ผ่านมาลูกสาวโทรศัพท์มาพูดคุยกับตน และหลานโดยตลอด เสียใจที่ลูกทำแบบนั้น หลังจากนี้จะอยู่อย่างไร เพราะลูกสาวส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 4,000-5,000 บาททุกเดือน ไม่เคยขาด แม้แต่เดือนเดียว เป็นเวลานานกว่า 15 ปีแล้ว
นางบุญเลี้ยง เล่าด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน มีลมกระโชกมาอย่างแรงจนน่าตกใจหลายครั้ง จึงยกมือไหว้ไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแรง ก่อนลมจะหยุดไป ตอนนี้สงสารแต่หลาน หลังจากนี้จะอยู่อย่างไร หากไม่มีใครส่งเงินมาให้