สิ้นเกจิดังอีสาน "หลวงปู่ห้วย เขมจารี" เจ้าอาวาสวัดหลวงสุมังคลาราม และอดีตเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ละสังขารด้วยโรคชรา สิริอายุรวม 97 ปี 76 พรรษา ขณะที่เจ้าคณะจังหวัด และวัฒนธรรมจังหวัด เตรียมการเปิดให้พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมสรงน้ำศพ


เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 67 ที่วัดประชารังสรรค์ ตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ต่างทยอยเดินทางมากราบไหว้สักการะร่างที่ไร้วิญญาณ พระราชญาณโสภณ (จรัส เขมจารี) หรือ หลวงปู่ห้วย หลังที่ท่านมรณภาพด้วยโรคชราภาพ ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 97 ปี พรรษา 76 ซึ่งทางวัด โดย พระวินัยเมธี เจ้าคณะ จ.ศรีสะเกษ (ธรรมยุต) พร้อม นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมประชุมหารือ กำหนดการขอพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และวันเวลาเคลื่อนศพ


ทั้งนี้ หลวงปู่ห้วย เขมจารี มีนามเดิมว่า จรัส ศรีสุข เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2470 ที่บ้านเมืองจันทร์ ตำบลเมืองจันทร์ อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดาชื่อนายมา ศรีสุข มารดาชื่อนางผุย ศรีสุข ท่านเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 7 คน ได้เข้าเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดบ้านเมืองจันทร์ อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จบชั้น ป.3 เพราะมีสอนเท่านั้นในขณะนั้น อายุได้ 17 ปี จึงได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2487 ณ วัดหลวงสุมังคลาราม เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจนกระทั่งสอบได้นักธรรมชั้นตรี 


ต่อมาได้อุปสมบทในปี พ.ศ. 2491 ณ พัทธสีมาวัดหลวงสุมังคลาราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระครูสิริสารคุณ (ศรี ฐิตธมฺโม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาธวัช วิมโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาหน่วย ขันติโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “เขมจารี” เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจาก อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ จนได้วิทยฐานะ ป.ธ.3, น.ธ.เอก

...


ตำแหน่งของท่าน อดีตเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ธรรมยุต) ท่านเป็น เจ้าอาวาสวัดหลวงสุมังคลาราม พระอารามหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ และเป็นที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดประชารังสรรค์ ตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ


นายสุเทพ ศรีสุข ลูกศิษย์หลวงปู่ห้วย เผยว่า ช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 หลวงปู่ห้วยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชกรุงเทพฯ ได้หลายเดือน ต่อมาช่วงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 พระและลูกศิษย์ที่ดูหลวงปู่ ก็ได้นำหลวงปู่ห้วยมารักษาตัวต่ออยู่ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์จังหวัดศรีสะเกษ หลวงปู่รักษาอาการป่วยจากโรคชราและโรคปอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 หลวงปู่มีอาการเหนื่อยและมีลมหายใจที่แผ่วลง กับทั้งความดันลดลงเรื่อยๆ เวลา 01.00 น. หลวงปู่ห้วยก็ได้ละสังขารด้วยอาการสงบที่โรงพยาบาลพริ้นซ์จังหวัดศรีสะเกษ ด้วยอาการชรา และปอดติดเชื้อ 


ในช่วงที่หลวงปู่ห้วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์หลวงปู่มีหน้าตาที่สดใส หลวงปู่จะปฏิบัติธรรมสวดมนต์อยู่ตลอดทุกวัน หลวงปู่ห้วยจะชอบทำประโยชน์ให้กับสังคม ด้านการศึกษา วัฒนธรรม เป็นพระสายธรรมยุต เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นแบบอย่างให้กับลูกศิษย์ลูกหาได้ปฏิบัติตาม หลวงปู่เป็นพระที่พูดน้อย แต่ทำเยอะ ทำให้ลูกศิษย์เห็นและปฏิบัติตาม


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กำหนดการเบื้องต้น ทางคณะสงฆ์ จะมีการเคลื่อนศพ หลวงปู่ห้วย ออกจาก ห้องสมุดญาณสังวร วัดประชารังสรรค์ ตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 12.00 น. ถึง 13.00 น. ไปยังศาลาวิหาร ภายในวัดประชารังสรรค์ ตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนจะปล่อยให้พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ร่วมสรงน้ำศพ หลวงปู่ห้วย ก่อนที่เวลาประมาณ 18.00 น. จะมีการอัญเชิญน้ำหลวงพระราชทาน มาสรงศพหลวงปู่ห้วย ในเวลาต่อมา ส่วนจะตั้งศพไว้กี่วันนั้น ยังอยู่ในการประชุมหารือกันอีกครั้ง