เจ้าของโชห่วยโคราชเผยซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน มาเปิดใจกลางเมืองริมถนนราชดำเนิน มีผลกระทบมากแน่นอน หลายร้านเตรียมปิดตัว จี้รัฐอุ้มร้านค้าไทยก่อนหมดลมหายใจ ล่าสุดพบ "ร้านจีน" เปิดในโคราชแล้ว 2 สาขา และมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนมาก
จากกรณีที่มีป้ายโฆษณาภาษาจีน โผล่ใจกลางเมืองนครราชสีมาเป็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดอยู่บนอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ริมถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม ประมาณ 500 เมตร ป้ายมีข้อความภาษาจีน ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ธุรกิจหลัก อาหารจีน ขนม เครื่องปรุงรส อาหารแห้ง อาหารแช่แข็ง และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ” พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ทิ้งท้าย โดยมีภาษาไทยแค่คำว่า “ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน” เท่านั้น ซึ่งชาวโคราช ต่างพากันถ่ายภาพและแชร์ต่อๆ กันในโซเชียล
ล่าสุด วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนดังกล่าว แต่พบว่าช่วงเช้ายังปิดประตูอยู่ จึงยังไม่สามารถเข้าไปดูภายในร้านได้ โดยทราบว่าร้านมีเวลาเปิด ระหว่างเวลา 10.00–21.00 น. โดยมีพนักงานดูแลอยู่ 1 คน ภายในร้านมีการจัดชั้นวางสินค้าหลากหลาย โดยเฉพาะเครื่องปรุงรส เครื่องปรุงหม่าล่า อาหารแห้ง และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีน แต่มีบริษัทไทยเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้า และยังพบว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนยี่ห้อนี้ มาเปิดสาขาที่ จ.นครราชสีมาแล้ว 2 สาขา โดย 1 สาขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง และยังมีสาขาอีกหลายสิบสาขาอยู่ใจกลางเมืองของจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ค้ารายย่อย ในตลาดสดแม่กิมเฮง ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้กันกับจุดที่เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน พบว่าพ่อค้า แม่ค้า ต่างรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก นายเพชร ลานอก อายุ 52 ปี ซึ่งเปิดร้านโชห่วยอยู่ในตลาดแม่กิมเฮง มีสินค้าอุปโภคบริโภคคล้ายกับสินค้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนมาเปิดขาย เช่น อาหาร, บะหมี่จีน, ขนม, เครื่องปรุงรส, อาหารแห้ง, อาหารแช่แข็ง และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกวิตกกังวลกลัวว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจนลูกค้าหายไปหมด
...
นายเพชร กล่าวว่า ตอนนี้เศรษฐกิจในพื้นที่ก็แย่อยู่แล้ว แต่ละวันในตลาดเงียบมาก พ่อค้า แม่ค้า ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจซบเซา ถ้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน นำสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาขายแข่งอีก ร้านค้าของคนไทยจะตายกันหมดแน่ เพราะต้นทุนของเขาถูกกว่าเรามาก สินค้าประเภทเดียวกันสามารถขายในราคาถูกกว่า คนก็จะแห่ไปซื้อของจีนหมด ปัจจุบันนี้เฉพาะมีร้านสะดวกซื้อมาเปิดใกล้ๆ ร้านของตนก็ถูกแย่งลูกค้าไปมากแล้ว เพราะทุนของเราก็มีน้อย ถ้าร้านขายของจีนมาเปิดอีกลูกค้าคงจะหายไปหมดแน่ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยควบคุมดูแลไม่ให้ทุนจีนเหล่านี้เข้ามาแบบเสรี เช่น อาจจะมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น หรือให้เขาขายสินค้าได้เฉพาะบางประเภท อย่าให้ขายสินค้าเหมือนกับคนไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยคนไทยสามารถอยู่ได้ ถ้าปล่อยให้มาขายสินค้าเหมือนคนไทยทั้งหมด สงสัยตนคงจะต้องปิดร้าน แล้วไปเป็นลูกน้องคนจีนจะดีกว่า
ด้านนายสุดที่รัก พันธุ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “กรณีที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนมาเปิดในพื้นที่ จ.นครราชสีมานั้น มองได้สองมุม ทั้งมุมบวกและมุมลบ โดยมุมบวกก็จะทำให้ลูกค้าในพื้นที่มีสินค้าชนิดใหม่ๆ ให้เลือกซื้อหลากหลายมากขึ้น มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ส่วนมุมลบก็คงจะเป็นผู้ค้าในพื้นที่ โดยเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตของคนในท้องถิ่น อาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องของการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งเราต้องมาดูตัวเองว่าผู้ประกอบการในพื้นที่ของเรามีความพร้อมมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งจากการประเมินขณะนี้ ตลาดค้าปลีกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก เนื่องจากผู้ค้าปลีกท้องถิ่น เช่น ห้างวิชโก้ ซึ่งเป็นห้างท้องถิ่นโคราช มีความเข้มแข็งมาก รวมถึง ห้างค้าปลีกรายใหญ่ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส และบิ๊กซี เป็นต้น ยังมีความเข้มแข็งอยู่มาก”
ส่วนที่เป็นห่วงก็ในส่วนของซัพพลายเออร์ หรือผู้ผลิตสินค้า ซึ่งจะต้องเร่งพัฒนาการผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดให้มากขึ้น ส่วนเรื่องการลดต้นทุนการผลิต ก็ให้นำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ เพราะตอนนี้ ผู้ผลิตสินค้าจากจีนที่เขาสามารถทำต้นทุนให้ต่ำได้ เนื่องจากเขานำเทคโนโลยีมาใช้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดังนั้น ทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จึงเร่งส่งเสริมกิจกรรมพาผู้ประกอบการไปดูงานที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาเร็วมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรัฐบาล ก็ต้องมีมาตรการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการค้าปลีกไทย ให้สามารถแข่งขันกับทุนต่างชาติได้อย่างยั่งยืนด้วย.