นครพนม ฉาวอีก “ไทกร พลสุวรรณ” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง โผล่แฉว่อนโซเชียล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น / อบจ. ทุจริตขุดลอก โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ชี้เป็นงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตั้งแต่ปี 2565 ทั้งอีสาน รวมกว่า 5,000 ล้านบาท พบใช้กลโกง วิธีการตกลงราคา ไม่เกิน 5 แสนเป็นส่วนใหญ่ เอื้อต่อพรรคพวก ผู้รับจ้าง หักหัวคิวกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่ใช้งบทำงานจริงไม่ถึงครึ่ง ซ้ำร้ายทำงานไม่ได้มาตรฐาน เคยมีคนร้องกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทน รวมถึง ร้อง ป.ป.ช. แต่ไม่คืบหน้า วอน ป.ป.ช.เร่งตรวจสอบ เอาผิด หดหู่ใจโกงเงินภาษีประชาชน พบ นครพนม ส่อทุจริต ใช้งบกว่า 430 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม กลายเป็นข่าวฉาวอีก สำหรับวงการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ จ.นครพนม เนื่องจากมี นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง ออกมาแฉผ่านสื่อโซเชียล แฉกลโกงการทุจริต โครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน ในพื้นที่ของ จ.นครพนม โดยอ้างว่าเป็นการใช้จ่ายงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตั้งแต่ปี 2565 ในพื้นที่ภาคอีสาน ใช้งบรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบพิรุธมีการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้าง หาผู้รับจ้างแบบพิเศษ ตกลงราคาวงเงินไม่เกิน 5 แสนบาท เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อพรรคพวก พร้อมดำเนินการหักหัวคิว เป็นโครงการละประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีการขายงานต่อเพื่อกินหัวคิว ทำให้งบประมาณจริงที่เหลือในการดำเนินโครงการ ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จากวงเงิน 5 แสนบาท ส่งผลกระทบต่อปริมาณงานที่ได้ไม่ตรงตามมาตรฐาน กระทบการใช้จ่ายงบประมาณภาษีของประชาชน
...
สำหรับพื้นที่ จ.นครพนม ยังกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ ดำเนินการขุดลอกโครงการธนาคารน้ำใต้ดินของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ จ.นครพนม รวมถึง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม โดยเฉพาะ อบจ.นครพนม ถือว่ามีการขอสนับสนุนใช้งบประมาณมากสุดในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2565 – 2567 รวมมีการดำเนินการขุดลอกธนาคารน้ำใต้ดินมากถึง 867 โครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 433,500,000 บาท จนกลายเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้ นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาแฉผ่านสื่อให้หน่วยงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบ เนื่องจากส่อทุจริต และเชื่อว่าไม่มีความคุ้มค่ากับงบประมาณภาษีของประชาชน อีกทั้งถือว่าเป็นการจัดงบประมาณมากที่สุดของภาคอีสาน สำหรับหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ ล่าสุด นายวัฒนา ไตรยราช ส.อบจ.นครพนม เขต อ.นาแก รวมถึง ว่าที่ร้อยตรี พีรยุทธ ตั้งตระกูล สจ.โจ ส.อบจ.เขต อ.เมืองนครพนม นายนาวิน นามเรือง อดีต ส.อบจ.เขต อ.นาแก ในฐานะตัวแทนชาวบ้านที่มีการติดตามคัดค้านการใช้งบประมาณ เนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ไม่มีความคุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ และกระทบต่อการใช้งบประมาณภาษีของประชาชน นอกจากจะมีการนำเอกสารหลักฐาน ร้องต่อ ป.ป.ช. นครพนม ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันปราบปรามการทุจริต และตรวจสอบย้อนหลัง หากพบว่ามีการทุจริตให้ดำเนินการตามขั้นตอน ยังได้นำเอกสารหลักฐานยื่นต่อ สำนักตรวจเงินแผ่นดิน จ.นครพนม เพื่อให้มีการตรวจสอบติดตามการใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ของ อปท. ทุกแห่ง รวมถึง อบจ.นครพนม เพื่อความโปร่งใส และชาวบ้านได้รับประโยชน์สูงสุด
ด้าน นางกรกนก ศิลา นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกลุ่ม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครพนม ระบุว่า หากมีข้อร้องเรียน ทาง สตง.นครพนม จะต้องมีการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการเพื่อตรวจสอบย้อนหลังเป็นหลัก เพื่อพิจารณาความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ หากพบว่ามีการใช้งบไม่คุ้มค่า หรือไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ไม่ได้มาตรฐาน จะต้องมีการพิจารณาสั่งให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ แก้ไข หรือหากพบว่ามีการทุจริต จะส่งต่อไปยัง ป.ป.ช.นครพนม เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตต่อไปตามขั้นตอน ยืนยัน สตง.นครพนม พร้อมตรวจสอบทุกหน่วยงานที่ใช้งบประมาณแผ่นดินให้มีความโปร่งใส
ส่วน นายปริญญา ฤทธิ์ตา เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตชำนาญการ เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียน ทาง ป.ป.ช.นครพนม พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการ โดยมีสองแนวทางในการดำเนินการ คือการป้องกันปราบปราม ในส่วนที่ยังไม่ดำเนินการ แต่ในส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว หากตรวจสอบว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้งบประมาณ หรือแสวงประโยชน์จากโครงการ ถือว่าเป็นการทุจริต จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ฝากประชาชนสามารถร้องเรียนตรวจสอบได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ
...