"อุดรธานี" สุนัขพิตบูลลูกผสม ขย้ำ ด.ญ.5 ขวบ กัดหัวแผลเหวอะเกือบถึงดวงตา จนเห็นกะโหลก โชคดีญาติๆ ช่วยทัน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ล่าสุดปลอดภัยแล้ว-อาการดีขึ้น แต่ยังต้องนอน รพ.เพื่อให้หมอดูบาดแผล-หวั่นอาจติดเชื้อ 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุสุนัขพันธุ์พิตบูลผสมพันธุ์ไทยหลังอานกัด ด.ญ.อายุ 5 ขวบ ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จนเป็นแผลเหวอะหวะ ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บ้านผือ เกรงว่าแผลอาจจะมีการติดเชื้อ เนื่องจากบาดแผลใหญ่ ลึกถึงกะโหลกศีรษะ และใกล้ดวงตาด้านซ้าย แพทย์กลัวว่าอาจจะมีการติดเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อพบกับ นางสมลิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ยายเด็กหญิงคนดังกล่าว ที่พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุ บริเวณลานกว้างหน้าบ้าน พบเพียงร่องรอยการช่วยเหลือเด็ก แต่ไม่มีรอยเลือด และแสดงท่าทางขณะที่ญาติเข้าไปดึงตัวหลานสาวเข้ามากอดจากคมเขี้ยวสุนัข เพื่อป้องกันไม่ให้หลานถูกกัดซ้ำ ก่อนญาติที่เป็นเจ้าของบ้านจะถือท่อนไม้มาไล่สุนัขออกไป จากนั้นก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.เขือน้ำ แล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล

จากการสอบถาม นางสมลิศ เล่าว่า บ้านแถวนี้เป็นเครือญาติกันทั้งหมด ตอนเย็นหลังจากไปรับหลานสาวกลับจากโรงเรียน ก็มักจะพาหลานสาวมาเล่นกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาเล่นกันที่บ้านหลังนี้ เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็จะกลับบ้านใครบ้านมัน และเมื่อวานนี้เด็กๆ ติดไข้กันหมด ไม่ได้ไปโรงเรียน จึงมาเล่นกันที่นี่ตั้งแต่บ่าย ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็น ญาติอีกคนที่เป็นบ้านเจ้าของสุนัขได้อุ้มหลานชายวัย 2 ขวบมาเล่นด้วยกัน ไม่นานสุนัขก็กระโดดขย้ำที่หัวหลานสาว ญาติที่อุ้มหลานชาย 2 ขวบอยู่จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย ส่วนญาติๆ คนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็วิ่งเข้าไปช่วยกันไล่สุนัข แล้วพากันรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นเห็นแผลที่หัวหลานสาวมีขนาดใหญ่มาก เลือดไหลนองเต็มเสื้อ ตนตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก สุนัขตัวนี้ก็เป็นหมาของญาติ เดินเข้าออกบ้านหลังเกิดเหตุเป็นประจำ ไม่เคยดุร้ายกัดใครมาก่อน แต่คิดว่าที่มันมากัดหลานสาวคงเพราะหวงหลานชายวัย 2 ขวบ

...

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเจ้าของสุนัข ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อพบกับ นายกิ่งศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เจ้าของสุนัข จากการสอบถามเจ้าของสุนัขทราบว่า สุนัขตัวก่อเหตุเป็นเพศผู้ อายุ 2 ปี หลังก่อเหตุเจ้าของได้ใช้โซ่เหล็กล่ามเอาไว้กับเสาโรงรถ เมื่อสุนัขเห็นผู้สื่อข่าวก็เห่าขู่ตามปกติ แต่ไม่ได้มีอาการดุร้าย เมื่อผู้สื่อข่าวนั่งคุยกับเจ้าของสุนัขสักพัก สุนัขก็เริ่มคุ้นชินและไม่เห่า ก่อนทำหน้าหงอยนอนซึมเนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยถูกล่ามโซ่แบบนี้มาก่อน

โดย นายกิ่งศักดิ์ เจ้าของสุนัข เล่าว่า ซื้อเสุนัขตัวนี้มาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 1 เดือน ซื้อมาจากคนรู้จักในหมู่บ้าน สุนัขตัวนี้เป็นพันธุ์ผสม แม่เป็นพิตบูล พ่อเป็นหมาบ้านทั่วไปผสมพันธุ์ไทยหลังอาน ที่ผ่านมาไม่เคยกัดใคร ไม่เคยมีท่าทีดุร้ายกัดคนสักครั้ง วันเกิดเหตุตนอยู่บ้าน แม่ตนอุ้มลูกชายตนอายุ 2 ขวบ ไปเล่นกับเพื่อนที่บ้านญาติ ตนคิดว่าสาเหตุที่มันกัดหลานสาว เพราะคงหวงที่หลานสาวจะเข้าไปเล่นกับแม่และลูกชายตน หลังเกิดเหตุแม่ตนเสียใจมาก ร้องไห้ไม่หยุดเกือบทั้งคืน ตนก็เสียใจที่หลานสาวต้องมาบาดเจ็บ

"ตนได้ไปเยี่ยมหลาสาวแล้ว ยืนยันว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง เรื่องชีวิตคนสำคัญกว่า ให้หมอรักษาให้หายดีก่อน ถึงจะไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกันอีกที อยากให้หลานสาวหายเร็วๆ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างดี ขึ้นชื่อว่าหมามันก็ไว้ใจไม่ได้ ปรึกษากับญาติแล้วว่า หากเอาไปให้คนอื่นเลี้ยง มันก็จะกัดคนอีก สร้างปัญหา มันก็จะเป็นบาป ต่อไปก็ต้องล่ามมันไว้แบบนี้ เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก" เจ้าของสุนัข เล่าให้ฟัง

ด้าน น.ส.ขวัญใจ แม่ของเด็กหญิงที่บาดเจ็บ เล่าว่า ขณะที่ตนขายผักอยู่ที่ตลาด มีญาติโทรมาบอกว่าลูกสาวถูกหมากัดเป็นแผลลึกเลือดออกเยอะมาก ตนจึงวิ่งจากตลาดกลับมาดูลูกทันที เป็นระยะทางมากกว่า 1 กม. ตนวิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งจนลืมเหนื่อย เมื่อมาถึงแล้วเห็นสภาพลูก ตนจุกอกถึงกับพูดไม่ออก ลูกมีแผลใหญ่และลึกจนเห็นกะโหลก สงสารลูกมาก ลูกไม่เคยบาดเจ็บรุนแรงอะไรแบบนี้ เจ้าของหมาเขามาเยี่ยมแล้ว ตกลงกันว่าให้น้องหายดีกลับบ้านก่อนจึงจะไปเจรจาเรื่องค่าเสียหายกันอีกครั้ง

"เบื้องต้นอาการของลูกสาวหมอบอกว่า บาดแผลฉกรรจ์และลึกมาก เสี่ยงติดเชื้อ หมอต้องเย็บแผลไว้ห่างๆ เพื่อให้เลือดและหนองไหลออกมาก่อน ต้องดูอาการอีกสักพัก ก่อนหน้านี้ตนก็ระมัดระวังตัวมาตลอด เนื่องจาก 2-3 คืน ตนฝันไม่ดีฝันว่าในห้องนอนมีหัวกะโหลกลอยไปมา ตนไปเสิร์ชหาในเน็ตเขาก็บอกว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ก็ไม่นึกว่าเรื่องจะเกิดกับลูกสาว ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 16 ปี ส่วนคนที่บาดเจ็บเป็นคนเล็ก ตนต้องขอขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่มาช่วยเหลือ ต่อไปก็ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด หากน้องไม่ได้ไปเรียน ก็คงต้องพาไปขายของที่ตลาดด้วย เพราะเป็นห่วงลูกมาก" แม่เด็กหญิงเคราะห์ร้าย กล่าว.