พายุฤดูร้อน พัดถล่มบึงกาฬ ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เครนยักษ์ล้มทับ 3 คนงาน ขณะหลบฝนอยู่หลังรถที่มีหลังคายกสูง เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีหลังคาสะพานลอยปลิวขวางถนน 12 เลน ผู้ว่าฯ สั่งการด่วน เร่งสำรวจความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่จังหวัดบึงกาฬ ได้เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มมาพร้อมกับลมกระโชกแรงนานกว่า 30 นาที ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งเมือง หลังพายุสงบลงได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่น บริเวณสะพานลอย ที่ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บ้านแพง ระหว่างหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ ข้ามไปหาสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบึงกาฬ ที่มีถนนกว่า 12 เลน แรงลมได้พัดเอาหลังคาสะพานลอยหลุดตกลงมาขวางถนนทั้ง 12 เลน จนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้นำรถจักร (jcb) พร้อมรถเครนเข้าดันและยกโครงหลังคาออกจากถนนสายดังกล่าว โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่งโมง 30 นาที จนสามารถเปิดถนนให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ตามปกติ และปิดการใช้สะพานชั่วคราว จนกว่าจะสามารถประเมินความมั่นคงแข็งแรงอีกครั้ง โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และนายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ลงพื้นที่สั่งการด้วยตัวเอง

...

ขณะที่บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ริมถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ท้องที่บ้านหนองแวง ม.3 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ 3 คนงานหนุ่มเข้าไปหลบพายุลมฝน อยู่บนหลังรถซูซูกิ รุ่นแครี่ สีขาว ทะเบียน 1ฒฎ 5743 กทม. ที่มีหลังคายกสูงด้านหลังรถ จอดอยู่ใต้แกนตี้เครน (Gantry Cranes หรือเครนสนาม, เครนขาสูง) ถูกแรงลมพัดเครนล้มลงมาทับ ทำให้ทั้ง 3 รายเสียชีวิตติดอยู่ใต้หลังคาเหล็กท้ายรถ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนทีธรรม หน่วยกู้ภัยร่วมใจ และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างออกมาได้
ทราบชื่อ 1. นายสมพงษ์ เจียมรัมย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.7 ต.เมืองโพธิ์ อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
2. นายจิตติชัย เศรษฐนันท์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.4 ต.หนองกุง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
และ 3. นายวรวุฒิ อ้วนแก้ว ชาวจังหวัดนครพนม

นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 2ฒง 6595 กทม. อีกหนึ่งคันที่ถูกเครนยักษ์ล้มทับ เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ สั่งการให้นายจ้างนำศพไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน เพื่อรอติดต่อญาติให้ทราบ และขั้นตอนช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
และนอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้สั่งการด่วนให้นายอำเภอทุกอำเภอ ปภ. รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะมีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นมาไม่น้อย