ปีนี้ข้าวราคาดี ชาวนาที่ขอนแก่นขนใส่ยุ้งเตรียมไว้ขายใช้หนี้ค่าปุ๋ย และลงทุนทำนาปี แต่มีโจรออกอาละวาดลักข้าวเปลือก มากันหลายคนขนไปใส่รถ เหลือไว้ให้ทำพันธุ์ 4 กระสอบ แจ้งตำรวจจับยัดคุกให้หมด  

เวลา 11.00 น. วันที่ 25 มีนาคม 2567 นางบุษบา ปั่นพิมาย อายุ 56 ปี อยู่หมู่ 2 บ้านคูขาด ต.โคกสง่า อ.พล จ.ขอนแก่น เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูเบศ ศรีเปี้ย รอง สว.(สอบสวน) สภ.พล ว่า ถูกคนร้ายขโมยเอาข้าวเปลือก ซึ่งเป็นข้าวเจ้าไปจากยุ้งข้าว ที่อยู่ห่างจากตัวบ้านประมาน 20 เมตร จำนวน 35 กระสอบ ขอให้ตำรวจช่วยสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย


หลังแจ้งความ นางบุษบา กล่าวว่า มีคนร้ายเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นแก๊ง อาละวาดลักข้าวเปลือกในหมู่บ้านคูขาด และหมู่บ้านใกล้เคียงมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว มีผู้เสียหายหลายรายถูกคนร้ายขโมยข้าวเปลือกไป ตั้งแต่รายละ 20, 30, 35, 40 และบางรายเป็น 100 กระสอบ ซึ่งทุกรายได้แจ้งความกับตำรวจหมดแล้ว


ส่วนของตนนั้น คนร้ายเข้าไปลักเอาข้าวเปลือกในยุ้งข้าวในช่วงคืนวันที่ 23-34 มีนาคม รวมทั้งหมด 35 กระสอบ คนร้ายน่าจะมากันหลายคน งัดทำลายกุญแจที่ล็อกยุ้งข้าวแล้วช่วยกันขนไปใส่รถยนต์ที่จอดรอห่างออกไปประมาณ 100 เมตร นอกจากนี้ คนร้ายยังวางกระสอบข้าวเปลือกทิ้งไว้จำนวน 4 กระสอบ และเปิดยุ้งข้าวไว้ ช่วงเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2567 ตนตื่นขึ้นมานึ่งข้าว เห็นกระสอบข้าวเปลือกวางทิ้งไว้ที่พื้นดิน จำนวน 4 กระสอบ จึงรีบไปตรวจดูที่ยุ้งข้าว พบว่าคนร้ายซึ่งเชื่อว่ามากันเป็นแก๊ง ลักข้าวเปลือกในยุ้งข้าวไปเกือบหมด จึงรีบมาแจ้งความให้ตำรวจตามจับคนร้ายเข้าคุกให้หมด


“ข้าวเปลือกในยุ้งเตรียมไว้จะขายหลังสงกรานต์ เพราะข้าวราคาดี จะได้มีเงินเตรียมไว้ซื้อปุ๋ยใส่นาปีที่กำลังจะมาถึง และจะนำเงินไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยที่ไปเอามาใส่นาข้าวเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ถูกลักข้าวไปเกือบหมด คงไม่มีข้าวขายแล้ว ส่วนคนร้ายโดยส่วนตัวเชื่อว่ามีทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ร่วมมือกัน”

...

วันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 68 บ้านโคกไม้งาม หมู่ 7 ต.หนองมะเขือ อ.พล นายเฉลียว ทัดมาลา อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านพาผู้สื่อข่าวดูภายในยุ้งฉางซึ่งอยู่ข้างบ้านติดกับที่นาโดยมีรั้วลวดหนามกั้นพื้นที่เอาไว้ บอกว่า ข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง ประมาณ 130 กระสอบถูกขโมยไปจนเกลี้ยง เหลือให้ดูต่างหน้าประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งปีนี้ราคาข้าวก็เป็นราคากก.ละ 14-15 บาท 

นายเฉลียวเล่า เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 67 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.- 02.00 น. ขณะนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงสุนัขเห่าแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งตื่นเช้าขึ้นมาเห็นยุ้งฉางเปิดไว้ และข้าวเปลือก 130 กระสอบที่เก็บไว้หายไป เหลืออยู่ครึ่งกระสอบประมาณ 10 กก.จึงเข้าแจ้งความเอาไว้ที่สภ.พล แต่ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้  โดยเบาะแสล่าสุดวัยรุ่นในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟังบอกว่า เห็นรถเก๋งสีดำเข้ามาจอดแอบซุ่มอยู่บริเวณข้างทางโค้ง ห่างจากบ้านไปประมาณ 200 เมตร ไม่ถึง 10 นาที มีรถกระบะติดคอก 2 คัน ขับมาอย่างไวแล้วขับลงทุ่งนามาจอดเทียบข้างยุ้งฉาง ซึ่งมีรั้วลวดหนามกั้นอยู่ โดยมีคนลงมาจากรถ 3 คน คนแรกเข้าไปในยุ้งฉาง อีกคนยืนอยู่ตรงบันไดยุ้งฉางข้างรั้วลวดหนาว และอีกคนอยู่ที่รถคอยรับส่งกระสอบข้าวเปลือกทั้งหมดใส่ท้ายกระบะขับออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าคนร้ายทำกันเป็นขบวนการไม่ต่ำกว่า 6 คน 

นายเฉลียว กล่าวอีกว่า ข้าวเปลือก 130 กระสอบที่ถูกขโมยไปนั้นคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50,000 บาท และปีนี้ข้าวก็เป็นราคากว่าปีที่แล้ว ตั้งใจจะนำไปขายหาเงินมาใช้หนี้ค่าปุ๋ยและมาใช้จ่ายในครอบครัว และไม่ต้องไปซื้อข้าวกิน แต่ตอนนี้ข้าวก็ไม่เหลือ หนี้ก็ไม่ได้ใช้ อยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายไวๆจะได้ไม่ไปก่อเหตุที่อื่นอีก

ทางด้าน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.พล กล่าวว่าในทางคดี เหตุขโมยข้าวเปลือกในช่วงนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 3 ราย ในรายที่ถูกลักข้าวเปลือก 130 กระสอบ หลังจากได้รับแจ้งความทางชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้าย และเก็บหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดซึ่งในหมู่บ้านมีเพียงตัวเดียว ซึ่งยังไม่พบรถต้องสงสัย เนื่องจากมุมกล้องส่องไปไม่เห็น และยังไม่สามารถยืนยันวันเกิดเหตุได้ เนื่องจากผู้เสียหายเก็บข้าวเอาไว้ประมาณ 1 เดือนจึงมาเปิดดูเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 67 และกล้องวงจรปิดสามารถดูย้อนหลังได้เพียง 5 วัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเหตุก่อาจเกิดก่อนวันที่ 5 มีนาคม แต่มีชาวบ้านให้ข้อมูลว่าพบเห็นรถยนต์ดังกล่าวเข้ามาในหมู่บ้านวันที่ 5 มีนาคม 67