"บิ๊กทิน" ลงพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร เข้าพื้นที่ประตูเหล็ก หลังประชาชนร้องขอผลักดันให้มีการเปิดด่าน เพื่อการค้า การท่องเที่ยวกลับมาเฟื่องฟู ก่อนเข้าเยี่ยมฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น เปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และเยี่ยมทักทายกำลังพลและอดีตกำลังพลที่บาดเจ็บและพิการขณะปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้วย
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 ที่ศาลาวัฒนธรรมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เข้ารับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี รับฟังบรรยายสรุปภูมิประเทศพื้นที่ผามออีแดง ก่อนเดินทางดูพื้นที่ประตูเหล็ก ที่เมื่ออดีตคือประตูการค้าการท่องเที่ยวขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ประชาชนและฝ่ายการเมืองในพื้นที่รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงเห็นตรงกันว่าอยากให้รัฐบาลผลักดันให้มีการเปิดชายแดนพระวิหาร ประชาชนในพื้นที่อยากให้การค้าชายแดนกลับมาเฟื่องฟู

โดย นายสุทิน ได้เข้าพื้นที่สำรวจประตูเหล็ก ที่ขณะนี้ยังคงมีการล็อกกุญแจเช่นเดิม พร้อมกล่าวว่า เมื่อเดินทางมาดูพื้นที่จริงแล้วก็เป็นที่น่าเสียดาย ประตูนี้น่าจะเป็นประตูแห่งความรุ่งเรือง น่าจะเป็นประตูแห่งความอยู่ดีกินดีของประชาชน น่าจะเป็นประตูสันติสุข ล่าสุดได้ไปเยี่ยมเยือนทางเขมรมาแล้ว ได้พูดคุยในระดับผู้นำ ระดับผู้ปฏิบัติ เรื่องของการเปิดด่านก็เป็นเรื่องที่เราคุยกันก็เห็นตรงกันอยู่ รอเวลาสักระยะหนึ่งก็อาจเป็นไปได้ ตรงนี้ก็จะคึกคัก ต้องให้เวลาสักนิดจะมีข่าวดี ระมัดระวังบทเรียนในอดีต ก่อนทิ้งท้ายประตูนี้เปิดไม่ยากแต่ที่ยากคือกุญแจใจ เพราะต้องมีการพูดคุยในระดับสูงของทั้งสองฝ่าย
...

ด้านนายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎรไทย กล่าวว่า ในเบื้องต้นกรณีการเปิดประตูเหล็กนั้น ทางคณะสส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ก็ได้พูดคุยกับท่านนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่าชาวจังหวัดศรีสะเกษต้องการให้มีการเปิดตัวปราสาทพระวิหาร ผ่านทางประตูเหล็กเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นชมได้จากฝั่งไทย โดยท่านนายกฯ ก็ได้ให้ความเห็นว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเจรจากับทางประเทศกัมพูชา ในเบื้องต้นพวกเรา สส.จังหวัดศรีสะเกษก็ได้ไปยื่นเรื่องให้กับคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ท่านนภดล ปัทมะ ท่านก็รับเรื่องไว้โดยก็ทราบเรื่องว่าทางประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ มีความต้องการให้เป็นตัวปราสาทพระวิหาร ให้ทางกรรมาธิการได้ศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ ได้นำเสนอท่านนายกรัฐมนตรี ในเบื้องต้นท่านประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศก็มีความเห็นว่าจะต้องเชิญหน่วยงานความมั่นคง กรมอุทยาน หน่วยงานส่วนภูมิภาคแล้วก็อาจจะต้องมี ตม. หรือศุลกากรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ไปพิจารณาในกรรมาธิการ แล้วก็นำเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีในลำดับต่อไป

ในส่วนของทางจังหวัด ตนนั้นก็ได้คุยกับทางกองกำลังสุรนารี คุยกับ ร.16 คุยกับทหารพราน ซึ่งทุกคนในส่วนของความมั่นคงต่างก็เห็นด้วย ส่วนพ่อค้าประชาชนไม่ต้องพูดถึงอันนี้เห็นด้วยอยู่แล้ว ในส่วนของข้าราชการส่วนภูมิภาคท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกภาคส่วนต่างก็เห็นด้วยหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งต้องสอบถาม สส.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ซึ่งท่านเองก็แจ้งว่าทางที่พักโรงแรมมีการจองจนเต็มไปหมด นี่นับแค่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมผามออีแดงนะ

...
ทั้งนี้ในการพูดคุยเราก็ต้องให้หัวหน้ารัฐบาลของเราได้พูดคุยกับทางหัวหน้ารัฐบาลของกัมพูชา ซึ่งตนก็คิดว่าสามารถทำได้ ซึ่งเราเองก็ทำข้อมูลเสนอต่อท่านแล้ว เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา และเราก็น่าจะเปิดได้ในยุคของรัฐบาลปัจจุบัน

ด้าน สส.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 ของ อ.กันทรลักษ์ ถ้าเราดูจากสถิติเดิม มีผู้มาเยือน 6 แสนคนกับทุกวันนี้ แสนกว่าคนตัวเลขมันแตกต่างกันมาก การเปิดจุดผ่อนปรนจะช่วยเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาที่นี่ ผ่านทางอำเภอกันทรลักษ์ ทำให้เศรษฐกิจต่างๆ กลับมาฟื้นตัว ที่สำคัญคือถ้าการไปมาหาสู่กันเกิดขึ้นมันก็หมายถึงการกระชับความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ตนจึงได้ร่วมกับ สส.ทุกท่านยื่นเรื่องเพื่อจะให้มีจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวโดยเร็ว ก็หวังว่าน่าจะทันในยุคนี้

...
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลของฝ่ายกัมพูชา อีกฝั่งของประตูเหล็ก ก็ได้ออกมาสังเกตการณ์ขณะที่คณะไทยเข้าพื้นที่ประตูเหล็กและมีการทักทายกันไม่ได้มีความน่ากังวลแต่อย่างใด

คณะเดินทางต่อไปตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น พร้อมเปิดอนุสรณ์สถานพิทักษ์ไทย พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ และเยี่ยมทักทายกำลังพลและอดีตกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจ และได้รับบาดเจ็บและพิการขณะปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้วย

...
นายสุทิน กล่าวขณะตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการฟ้าลั่นว่า วันนี้มาดูความเป็นอยู่ที่แท้จริงของทหารหน้างานที่เป็นหน่วยรบอยู่ชายแดน ได้เห็นได้เข้าใจหลายเรื่องและเห็นปัญหาความจำเป็นของทหารว่าต้องการอะไรเท่าที่ฟังได้คือมีปัญหาเรื่องถนนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมี 5-6 สายที่ชำรุด และขาดน้ำประปา ซึ่งปัจจุบันต้องใช้รถขนน้ำขึ้นมาอย่างยากลำบาก ทั้งนี้การทำน้ำประปาใช้งบไม่เยอะและคิดว่าอยู่ในวิสัยทัศน์ที่ต้องสนับสนุน

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่หน้าด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม นายสุทิน คลังแสง และคณะ เดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยมีนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรินทร์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ ตำรวจ หน่วยงาน ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของด่านศุลกากรช่องจอม พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุป การส่งเสริมการค้าชายแดนตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ให้ดียิ่งขึ้น และได้รับฟังการรายงานการขอที่ดินบริเวณด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม พื้นที่ป่าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นที่ดินในการกำกับดูแลของ กรมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบ และอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ และที่ผ่านมาที่มีการตั้งหน่วยงานราชการ ทั้งด่านศุลกากรช่องจอม ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านตรวจโรคก่อนเข้ามาในไทย ด่านตำรวจท่องเที่ยว ก็ยังไม่เป็นไปในรูปแบบส่วนราชการของไทย เป็นหน่วยงานที่มีที่ตั้งบริเวณด่านผ่านแดนแบบเฉพาะกิจ

จากนั้น รมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานราชการต่างๆ หน่วยด่านความมั่นคง ทั้งจังหวัด กองกำลังสุรนารี กอ.รมน.ภาค 2 ส่วนแยก 2 หน่วยงานท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมสำนักหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาตรวจเยี่ยมแนวชายแดน มาตั้งแต่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งที่จังหวัดศรีสะเกษ ก็มีเรื่องความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่การเปิดด่านชายแดน เขาพระวิหาร และมีความเห็นตรงกันว่าอยากให้เปิดด่าน ส่วนที่สุรินทร์ นี่ก็อยากได้ด่านศุลกากรช่องจอม แห่งใหม่ที่มีความสมบูรณ์ ส่วนตนเองได้รับฟังจากหลายฝ่ายทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ฝ่ายประชาชน ฝ่ายนักธุรกิจ มีความประสงค์ตรงกันแม้แต่ประชาชนชาวบ้าน มีความประสงค์ตรงกันอยากได้ ตรงนี้มีมูลค่าการค้าสูง ด่านเราไม่สามารถรองรับที่จะได้โอกาสรองรับได้เงินได้ทองมากขึ้นของเราไม่พร้อมที่จะรับ เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องผลักดันเรื่องนี้ การผลักดันก็มีอุปสรรค อยู่นิดเดียวคือการขอที่ดินหน่วยงานกรมอุทยาน ซึ่งกรมอุทยาน เขาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของเขา หน่วยงานรัฐบาลกลางของประเทศ รัฐบาลก็จะมาชั่งน้ำหนัก เราน่าจะมีคุยกันให้ทุกฝ่ายรับได้ กรมอุทยานก็มารับฟังกันใช้ไม่เยอะไม่กี่ไร่ จากที่มีที่ดินบริเวณนี้นับแสนไร่ มาทำเรื่องนี้ผมทางเศรษฐกิจที่ได้ มันจะคุ้มค่า ฝ่ายความมั่นคงเขาก็สนับสนุน เรื่องนี้ก็มีความเป็นไปได้สูง

ตนเองก็จะนำเรื่องนี้ เอาข้อมูลที่ได้รับในวันนี้ นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรมอุทยาน ซึ่งกรมอุทยานก็ไม่เสียหายอะไรมาก ถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาล ไม่ช้า เรื่องนี้เป็นไปได้ที่จะต้องผลักดันแบบท็อปดาวน์ เมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ ก็จะสั่งการลงมาก็จะเร็วขึ้น ถ้านำเสนอจากระดับล่างขึ้นไปก็จะช้า นายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยไหม ผมไม่เดาใจนายกฯ แต่ผมเดาใจเรื่องนโยบาย รัฐบาลชุดนี้สร้างรายได้ใหม่ หาโอกาสทางเศรษฐกิจ เป็นไอเดียที่รัฐบาลอยากได้อยู่แล้ว การหารายได้ใหม่ที่ดี คืออย่างนี้น่าทำโอกาสที่เห็นร่วมกันโอกาสสำเร็จสูง ส่วนตัวก็จะสนับสนุนเต็มที่