อุทาหรณ์ ลูกสาวทิ้งแม่ให้รอในรถเก๋งเกือบ 2 ชั่วโมง ท่ามกลางอากาศร้อนจัดแทบเป็นลม เคราะห์ดีมีคนได้ยินเสียงเรียกให้ช่วย ก่อนพลเมืองดีทั้งไทยและกัมพูชามาช่วยกันเปิดพัดลมใส่ รถเป็นระบบไฟฟ้า ไม่สามารถเปิดประตูได้ รออยู่นานกว่าลูกสาวจะกลับมา ชาวบ้านบ่นอุบ ไม่เปิดแอร์ก็เปิดกระจกกว้างๆ ไว้
วันที่ 3 ธ.ค. 66 เวลา 13.30 น. ได้เกิดเหตุที่เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ลูกสาวจอดรถยนต์เก๋ง สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น พรีอุส (ไม่ขอเปิดเผยเลขทะเบียนรถ) และให้คุณแม่วัย 75 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ชาว ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นั่งรออยู่ในรถ โดยเปิดแง้มกระจกไว้เพียง 10 ซม. ที่บริเวณริมถนนหน้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนตัวเองจะลงเดินหาซื้อสินค้านานร่วมชั่วโมง ท่ามกลางอากาศในช่วงกลางวันที่ร้อนอบอ้าว
ช่วงนั้น นางเซียง แม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ขายของอยู่บริเวณริมทางหน้ารถ ได้ยินเสียงคุณยายเรียกด้วยเสียงที่แผ่วเบาอยู่สักพัก เอะใจและหันกลับไปดู ก็พบว่ายายเรียกขอความช่วยเหลือ บอกว่าจะเป็นลม เพราะอากาศในรถที่ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก ก่อนที่แม่ค้าชาวกัมพูชาจะเรียกชาวกัมพูชาและคนไทยที่อยู่บริเวณนั้นมาช่วยกันเปิดประตูรถ แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ แม้ช่างจะมาช่วยเปิดก็เปิดไม่ได้ ด้วยรถยนต์เก๋งเป็นระบบไฟฟ้าทั้งคัน

...
จากนั้นจึงพากันนำพัดลมจิ๋วเท่าที่มีมาเปิดให้ รวมทั้งนำผ้าขนหนูชุบน้ำมาให้คุณยายเช็ดตัว เพื่อบรรเทาความร้อนภายในรถ และเอาน้ำไปให้ดื่ม รวมทั้งยาดม บางคนก็เอาผ้าห่มและร่มมาปิดบังแดดหลังคารถให้ พร้อมทั้งเทน้ำใส่หลังคารถเพื่อให้ลดความร้อน ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะไปเอาพัดลมตั้งโต๊ะขนาดใหญ่มาเปิดให้ โดยมีชาวกัมพูชาและไทย รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพจาก อบต.ด่าน เข้ามาดูอาการคุณยายอย่างใกล้ชิด
ขณะที่พนักงานของตลาดการค้าชายแดนช่องจอม พยายามประกาศประชาสัมพันธ์หาตัวลูกสาวของคุณยายอยู่นานก็ยังไม่พบตัว จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง พบว่าลูกสาวของคุณยายได้กลับมาพร้อมถุงสินค้าถุงใหญ่ ก่อนจะมาสอบถามพลเมืองดีว่าเกิดอะไรขึ้น และต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสอบถามอาการของคุณยาย และถามว่าต้องการไป รพ.หรือไม่ ซึ่งคุณยายบอกว่าไม่เป็นไร และคุณยายได้ยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีทุกคน จากนั้นลูกสาวของคุณยายจึงสตาร์ตรถเปิดแอร์ให้คุณยายได้คลายความร้อน แล้วเดินทางกลับบ้านไปด้วยกัน รวมเวลาที่คุณยายนั่งรอลูกสาวในรถเกือบ 2 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างพูดจาวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ทำไมไม่สตาร์ตรถเปิดแอร์ไว้ให้แม่ ถ้าจะไปนานขนาดนี้ บางคนก็บอกว่าถึงไม่สตาร์ตรถไว้ ก็ให้เปิดกระจกกว้างๆ กว่านี้ก็ได้
ด้านนางเซียง แม่ค้าชาวกัมพูชา บอกว่า ได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ก็ไม่รู้ว่าใครเรียกอยู่นาน เอะใจจึงหันไปดู พบคุณยายบอกว่า เหนียงๆ มาเปิดประตูให้ยายหน่อย ตนขายของอยู่ด้วยแรกๆ ก็ได้ยินไม่ชัดเจน ไปเปิดก็เปิดไม่ได้ เลยเรียกให้คนมาช่วยกัน ช่วยเอาน้ำให้แกดื่ม เอาน้ำชุบผ้าขนหนูไปให้แกเช็ดตัวระบายความร้อน.