"น้องพลายเดือน" ลูกช้างป่าพลัดหลงโขลง ที่ทับลาน ใส่เฝือกสำเร็จด้วยดี-อาการปลอดภัย ทีมสัตวแพทย์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด คาดใส่อีกครั้งกลางเดือนหน้า
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการของลูกช้างป่าเพศผู้ โดยทีมสัตวแพทย์ตั้งชื่อว่า "น้องเดือน" เป็นช้างวัยเด็กเพิ่งคลอดได้ไม่นาน พลัดหลงออกจากโขลง หลังออกมาจากป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าไปหากินภายในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายลูกช้างมาทำการรักษาที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ ทล.08 (ตลิ่งชัน) และตรวจสอบพบว่า ลูกช้างมีอาการหัวกระดูกต้นขาส่วนปลายหักผิดรูป ที่บริเวณขาหลังด้านขวา ล่าสุดตอนนี้ทางสัตวแพทย์ได้ทำการใส่เผือกที่ขาหลังลูกช้าง แทนวิธีการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังพิจารณาแล้วว่าการผ่าตัดใส่อุปกรณ์ยึดตรึงกระดูกภายนอก (ilizarov) ต้องรอสั่งทำอุปกรณ์พิเศษ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีขนาดที่เหมาะสมกับลูกช้าง ซึ่งน่าจะกินเวลา 5-7 วัน และอาจจะช้าไปสำหรับช้างเชือกนี้ ประกอบกับสภาพตัวของลูกช้าง ค่อนข้างไม่พร้อมต่อการเคลื่อนย้ายรวมถึงไม่พร้อมต่อการผ่าตัดใหญ่ ถึงแม้ว่าการใส่เฝือกจะไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมที่สุด แต่วิธีนี้ใช้เวลาในการเตรียมการระยะสั้น สามารถปฏิบัติการได้เลยที่จุดเลี้ยงและดูแลลูกช้างป่า โดยไม่ต้องขนย้ายลูกช้าง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อตัวลูกช้างป่าในปัจจุบันมากที่สุด
นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า ล่าสุดตอนนี้ทางทีมสัตวแพทย์ โดยความร่วมมือกันระหว่างหลายหน่วยงานจากทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของไทย อาทิ ทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา), โรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ จ.ลำปาง, และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นต้น ได้ทำการใส่เผือกที่บริเวณขาหลังของลูกช้างทั้ง 2 ข้าง เป็นที่เรียบร้อยสำเร็จไปด้วยดี ซึ่งถือว่าเป็นการผ่านพ้นช่วงสำคัญของการรักษาไปแล้ว ท่ามกลางข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้ทางคณะแพทย์ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งเดิมทีทางคณะแพทย์จะใส่เผือกที่ขาหลังด้านขวา ที่ตรวจสอบพบว่าหักก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่หลังตรวจพบว่าขาหลังซ้ายก็มีปัญหาเช่นกัน จึงตัดสินใจใส่เผือกไปพร้อมกัน เพื่อลดอาการบวมและอักเสบ เพราะพิจารณาแล้วว่าหากปล่อยไว้ ก็จะต้องทำการใส่เผือกในที่สุดเช่นกัน ซึ่งหลังจากนี้อีกประมาณ 2 อาทิตย์ ทางทีมสัตวแพทย์ก็จะต้องใส่เผือกครั้งที่ 2 และรอดูอาการของลูกช้างต่อไป คาดว่าน่าจะเป็นไปด้วยดี เพราะตอนนี้ลูกช้างก็มีอาการดีขึ้น ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดปัญหาใดๆ การดื่มนมยังเป็นปกติ มีความกระตือรือร้นสนใจสิ่งแวดล้อมดี
...
ส่วนแนวทางการรักษาในขั้นตอนต่อไปนั้น ทางทีมสัตวแพทย์จะทำการรักษาในขั้นตอนนี้ให้ดี และให้ลูกช้างฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็จะต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากที่จะให้ลูกช้างตัวนี้กลับเข้าสู่ป่าโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นในระหว่างการดูแลให้ลูกช้างแข็งแรงสมบูรณ์และมีความพร้อม ก็อาจจะต้องมีโครงการ "แม่รับ" หรือหาแม่ช้างบุญธรรมมาดูแลสอนสัญชาตญาณ และให้นมตามธรรมชาติ เพราะจะทำให้ลูกช้างได้รับสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่ดีกว่านมผงที่ให้ในตอนนี้ ซึ่งหากแข็งแรงดีแล้วทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก็จะได้พิจารณาในขั้นตอนต่อไป