เกิดเหตุเพลิงไหม้ในธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาอำเภอสำโรง จ.อุบลราชธานี จนท.ใช้เวลาดับร่วมชั่วโมง บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้าและห้องผู้จัดการเสียหายทั้งหมด พบซากงูเขียวถูกไฟช็อตตกอยู่ใต้หม้อแปลงไฟฟ้า คาดเป็นตัวการทำไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.ต.สมพร อรรคบุตร สารวัตร (สอบสวน) สภ.สำโรง จังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์ 191 อุบลราชธานี เหตุเพลิงไหม้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอสำโรง เพลิงกำลังลุกไหม้หนักอยู่ภายในอาคาร ยังไม่สามารถควบคุมได้ จึงได้ประสานไปยังรถน้ำในพื้นที่สำโรง เทศบาลเมืองวารินชำราบ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี สนับสนุนรถน้ำและเจ้าหน้าที่เข้าควบคุม
ที่เกิดเหตุเป็นตัวอาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2 ชั้น พบกลุ่มควันอยู่ภายในตัวอาคารด้านหน้าทางซ้าย พุ่งออกมาจากตัวอาคารจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พลเมืองดีพยายามฉีดน้ำเข้าไป แต่ก็ไม่ถึงต้นเพลิง เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเป็นมุมอับ และเป็นห้องทำงานของผู้จัดการ และผู้ช่วยผู้จัดการของทางธนาคาร เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบได้
...
สอบถาม นายอำพร บุญสิงห์ อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทางธนาคาร เปิดเผยว่า ตนเองมาเข้าเวรตอน 07.00 น. ของวันนี้ เวลาประมาณ 08.00 น.เศษ ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จึงได้ออกตรวจดู พบว่าฟิวส์หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด จึงได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารทราบ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ประมาณ 20 นาที ตนได้กลิ่นเหม็นไหม้โชยออกมาจากด้านหลังของธนาคาร ซึ่งเข้าใจว่ามีการเผาถ่านอยู่พื้นที่ใกล้เคียง จึงไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมามีควันสีดำพุ่งออกมาจากตัวอาคาร ทราบว่ามีเพลิงไหม้ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ
ขณะที่ นางสาวจินดาพร แพงพรมมา อายุ 22 ปี พนักงานร้านขายยา ติดกับธนาคาร เปิดเผยว่าช่วงประมาณ 08.20 น. ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ขณะนั้นตนคิดว่าอาจจะมีอุบัติเหตุอยู่บริเวณใกล้เคียง จึงไม่ได้สนใจอะไร ต่อมามีชาวบ้านมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร และสังเกตเห็นกลุ่มควันพุ่งออกมาจากตัวอาคาร จึงได้เรียกตนมาดู ถึงทราบว่าเกิดเพลิงไหม้ภายในธนาคาร จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบภายในอาคารพบความเสียหายบริเวณห้องผู้จัดการ และโซนเคาน์เตอร์ให้บริการด้านหน้าทั้งหมด ส่วนบริเวณที่ใช้เป็นจุดเก็บเงินของธนาคารปลอดภัย ไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งค่าความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหม้อแปลงไฟฟ้า ตามที่นายอำพรได้ยินเสียงระเบิด พบซากของงูเขียว ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ตกอยู่ใต้เสาไฟ บริเวณหัวของงูเขียวมีรอยไหม้แข็ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ได้ประสานหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง