สาวท้อง 8 เดือน แจ้งความสามีอดีตทหาร ลาออกมาขับแกร็บแต่ไม่ค่อยขับ ส่วนใหญ่จะนอน ตัวเองต้องไปเป็นพนักงานห้างฯ เดือนนี้เงินเดือนยังไม่ออก ไปขอเงินสามี 100 บาท ซื้อกับข้าว โดนตบหน้า ผลักล้ม ก่อนชกคิ้วแตก จึงขอเลิกเด็ดขาด ไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภรรยาอีกต่อไป
กรณี น.ส.อนุธิดา อายุ 31 ปี สาวท้องแก่ 8 เดือน แจ้งตำรวจจับ นายขจร บัวระพันธ์ หรือ ยอด อายุ 34 ปี สามี ที่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ คิ้วแตก เพราะไม่พอใจที่ภรรยามาขอเงินซื้อกับข้าว จนทะเลาะมีปากเสียงกัน สามีจอมโหดตบหน้าและผลักภรรยาท้องแก่ล้มทั้งยืน ก่อนตามไปชกคิ้วแตก พร้อมกับท้าให้แจ้งตำรวจ ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ นายขจรรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายภรรยาจริง จึงนำตัว น.ส.อนุธิดา ส่งโรงพยาบาล เหตุเกิด 11.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2566
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.36 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2566 น.ส.อนุธิดา เดินทางมาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิง รัชนิชา ชูช่วย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับนายขจร สามี ซึ่งได้ทำร้ายร่างกาย ตบหน้า ผลักจนล้ม และชกเป็นแผลแตกที่คิ้ว เย็บ 3 เข็ม ไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายขจรอีกต่อไป แต่ต้องการจะเดินทางกลับบ้านที่ อ.นาหม่อม จ.สงขลา ซึ่งตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อนายขจร แต่นายขจรไม่รับสาย จึงจะออกหมายเรียกให้มาพบภายหลัง
น.ส.อนุธิดา เล่าว่า รู้จักนายขจรที่กรุงเทพฯ ตนทำงานเป็นพนักงานบริษัท ส่วนนายขจรรับราชการทหาร ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี คบกันได้ประมาณ 1 ปีกว่า โควิด-19 ระบาด ตกงาน จึงเข้าไปอยู่กับสามีที่ค่ายทหารโดยขายของออนไลน์ ต่อมาจึงท้องมีลูกสาวคนแรก กลับบ้านไปคลอดลูกกับแม่ที่ จ.สงขลา ต่อมานายขจร ได้ลาออกจากราชการ เพื่อกลับไปอยู่บ้านกับแม่ที่ จ.บุรีรัมย์ พาตนและลูกมาอยู่ด้วย ก่อนย้ายมาอยู่ที่บ้านพ่อที่ จ.อุดรธานี ส่วนพ่อไปอยู่บ้านสวนที่ อ.หนองหาน
...
น.ส.อนุธิดา เล่าต่อว่า นายขจรไม่ยอมไปทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่ไปขับแกร็บส่งอาหาร ไปบ้างไม่ไปบ้าง นานเข้าก็ไม่ออกไปทำงาน โดยเขาอ้างว่าลาออกจากราชการเพราะต้องการอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำงาน ตนจึงไปทำงานที่ห้างฯ แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี นำลูกไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ และเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างในครอบครัว ส่วนนายขจรไม่ทำงาน นอนตื่นสาย จึงให้นายขจรเลี้ยงลูก เพื่อประหยัดรายจ่าย เงินเดือนที่ได้ก็จะนำมาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่านม ค่าแพมเพิร์ส นายขจรไม่เคยรับผิดชอบอะไร และชอบไปดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อน และมารู้ว่าเสพกัญชาตั้งแต่ตอนเป็นทหารแล้ว จึงไม่ต้องการกลับไปอยู่กับสามี แต่ต้องการกลับบ้านไปคลอดลูกชาย โดยเอาลูกคนแรกไปด้วย
"เรื่องที่เกิดขึ้นได้ข้อคิด ต่อไปอย่าฝากชีวิตไว้กับใคร หาเงินมาได้อย่าเอาไปทุ่มกับครอบครัว เพราะมันไม่มั่นคง เอาเงินไปอุดรอยรั่วทุกอย่างในครอบครัว เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าสามีเป็นคนไม่ดี ถ้าวันนี้มีเงิน 100 บาท ไปซื้อกับข้าว เรื่องวันนี้คงไม่เกิดขึ้น แค่ไม่มีเงินจริงๆ ผลที่ออกมาเจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ แล้วไม่เหลืออะไรเลยตอนนี้"