ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และ "คนเสื้อแดง" นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เผยมุมมองส่วนตัว ชี้ฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ ถึงอย่างไร "ก้าวไกล" ก็ยังอยู่สภา และ "พิธา" อายุยังน้อย รออีก 4 ปียังไม่สาย วอนสังคมอย่าใช้วาทกรรมทำลายเพื่อไทย หากได้เป็นรัฐบาล
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และ "คนเสื้อแดง" นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล อาจารย์พรรณวดี กล่าวว่า กระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากวาทกรรมมาโจมตีพรรคเพื่อไทย มุมมองส่วนตัวกับเรื่องดังกล่าวอยากจะให้มองในภาพรวม โดยฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา และพรรคเพื่อไทยเองสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล อย่างเต็มที่สุดความสามารถมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เมื่อสุดความสามารถแล้วไปต่อไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแทน ซึ่งยังเป็นเส้นทางสู่ประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง แม้จะเกิดความเจ็บปวดที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตัวซึ่งเป็นภาคประชาชนเองก็เป็นกำลังใจให้กับพรรคก้าวไกล อยากจะบอกว่าแม้พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่ก็ยังอยู่ในสภา ยังสามารถช่วยเหลือและพัฒนาประเทศร่วมกันได้เพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน ตอนนี้อยากให้ภาคประชาชนอย่าใช้วาทกรรมมาทำลายเพราะจะเกิดความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ก็จะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยเผด็จการ ในระยะเวลา 4 ปีที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ประชาชน ก็จะได้เห็นการบริหารประเทศ หากไม่ดีเชื่อว่าประชาชนมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี คุณพิธา อายุยังน้อย อีกสี่ปีก็ไม่ถือว่าสายเกินไป ในระยะเวลา 4 ปีนี้ก็ไปสะสางตัวเองให้เรียบร้อย เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินได้เองว่าจะเลือกใคร
...
"วาทกรรมต่างๆ ที่เข้ามาโจมตีพรรคเพื่อไทย พยายามผูกมัดให้เป็นข้าวต้มมัดเดียวกัน อยากให้ภาคประชาชน มองเห็นปัญหาคือตัวรัฐธรรมนูญ เมื่อพรรคเพื่อไทยเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ก็แก้รัฐธรรมนูญให้เกิดความเป็นธรรม เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เราเห็นได้ชัดแล้วว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการร่างขึ้นมา ตอนนี้ประชาธิปไตยชนะอีก 1 ขั้น แต่ต้องเสียสละเพื่อให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้จัดตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นมาก่อน หรือจะเอาพรรคอันดับสามซึ่งเป็นพรรคภูมิใจไทย ขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลซึ่งเชื่อว่าก็ต้องเข้าสู่วงจรแบบเดิม คือฝ่ายเผด็จการ"
อาจารย์พรรณวดี กล่าวอีกว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีนั้นคาดว่าจะมีแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียวคือคุณเศรษฐา ทวีสิน และไม่มีพรรคอื่นส่งชื่อแข่ง และเชื่อว่าด่านสว. 250 เสียง จะได้เพิ่มมากกว่าพรรคก้าวไกล ส่วนตัวเชื่อว่าสว.แต่ละท่านมีวิจารณญาณของตัวเองว่าอะไรดีอะไรถูกอะไรเหมาะสม เพราะการเมืองคือกลไกเท่านั้น เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งก็เชื่อว่าจะได้รับคะแนนเสียงโหวตเกินครึ่งและได้จัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยส่วนตัวมองว่าจะไม่มีพรรคสองลุงร่วมด้วย แต่จะบอกว่าสองลุงก็ไม่ถูก เพราะลุงคนที่หนึ่งไม่อยู่แล้วเหลือเพียงแค่ลูกพรรค ซึ่งลุงคนที่หนึ่งก็ได้ประกาศชัดแล้วว่า ให้อิสระกับลูกพรรค ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ลูกพรรคสามารถใช้วิจารณญาณของการเป็นสส. ตัดสินใจเอง และในช่วงบ่ายวันนี้ทางพรรคเพื่อไทยก็น่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย