ของดีอุดรธานี "ทุเรียนนายูง" สวนลุงเส็ง@นายูง เอกลักษณ์กลิ่นไม่แรง เนื้อหวาน มัน กรอบ ได้รับ GAP ลูกค้าจองข้ามปี มีวางขายหน้าบ้านและออนไลน์ กก.ละ 170 บาท โดยปีนี้เกษตรอำเภอหนุนชาวบ้านนายูงปลูกเพิ่มรวม 294 ไร่
ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่ “สวนลุงเส็ง@นายูง” บ้านธาตุโปงทอง ม.5 ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี พบกับลุงเส็ง ทองเหง้า อายุ 61 ปี เจ้าของสวนทุเรียน (หมอนทอง) เพียง 12 ต้น อายุกว่า 22 ปีแล้ว ยังเป็นทุเรียนปลอดภัย หรือ GAP (GAP คือใบรับรอง การผลิตพืชที่ได้มาตรฐานปลอดภัย รับรองคุณภาพทุเรียนซึ่งมี 1. ทุเรียนแก่ตามอายุเก็บเกี่ยว 2. ผลิตทุเรียนปราศจากอาการแกน เต่าเผา และ ไส้ซึม 3. ผลิตทุเรียนปลอดจากศัตรูพืช 4. ผลิตทุเรียนปลอดจากสารพิษตกค้าง) ที่ได้รับการดูแลอย่างประณีต ผลผลิตที่ออกมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยทั้งหมดถูกขายที่หน้าสวน และออนไลน์ ในราคาปีนี้ กก.ละ 170 บาท
โดย ลุงเส็ง เจ้าของสวนทุเรียนแบบ “เฮาส์แบรนด์” นำทีมงานชมสวนตำนานทุเรียนต้นแรก อ.นายูง ที่อยู่บนเนินเขาหลังบ้าน พื้นที่เพียงราวไร่เศษ ที่ต้องทำทางเดินพิเศษขึ้นไป บนยอดเนินเป็นที่ราบสูง มีต้นทุเรียน และต้นเงาะ ปลูกเว้นระยะห่างราว 10 เมตร กระจายอยู่เต็มพื้นที่ โดยมีอีกหลายต้นโชว์ผลผลิต ที่ถูกตีตราจองไปจนหมดแล้ว สำหรับชุดสุดท้ายของปีนี้ ใครจะชิมต้องรอไปจนถึงปีหน้า
...
ลุงเส็ง กล่าวว่า พื้นที่ อ.นายูง มีสภาพเป็นภูเขาสูง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ สภาพสิ่งแวดล้อมดี ชาวบ้านจึงเข้ามาทำกิน 26 ปีก่อน ได้เข้ามาปลูกต้นยางพารา ระหว่างรอให้ยางโตพอกรีด ก็ไปทำงานรับจ้างที่ จ.ระยอง วันจันทร์-ศุกร์ ไปทำงานขับรถในนิคมอุตสาหกรรม พอวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปช่วยเพื่อนทำสวนผลไม้ที่ “สวนพ่อมา” จึงสั่งสมความรู้ประสบการณ์กว่า 4 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นสวนผลไม้ เพื่อการส่งออกที่มีชื่อเสียง
"22 ปีก่อนได้นำกล้าผลไม้ที่ จ.ระยอง กลับมาปลูกที่ อ.นายูง รวมไปถึงต้นทุเรียน 20 ต้น แต่ปลูกแบบทั่วไปไม่ได้ดูแล เมื่อกลับบ้านมากรีดยางขาย ราคายางดีจนลืมสวนผลไม้ ปล่อยตามธรรมชาติ มีลูกผลก็ไม่ได้ขาย แบ่งให้ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน จนราวปี 58 ราคายางตกต่ำ จึงลองตัดทุเรียนมาขายหน้าบ้าน ปีแรกขาย กก.ละ 50 บาท ได้เงิน 1 แสนบาท จึงกลับมาตั้งใจดูแล มีผลผลิตปีละ 2.5-3.5 ตัน ตั้งแต่มีโควิด-19 ก็มีขายทางออนไลน์ด้วย มีพ่อค้ามาขอเหมาสวนแต่ไม่ขาย เพราะเรามีลูกค้าขาประจำ สั่งกันข้ามปีกลัวเสียคำพูด" เจ้าของสวนลุงเส็ง กล่าว
ลุงเส็ง กล่าวต่อว่า ทุเรียนที่ อ.นายูง มีคุณภาพดี รสชาติไม่เหมือนที่อื่น คงจากสภาพดินภูมิประเทศ เป็นภูเขาและป่าสลับไปมา มีสภาพแวดล้อมที่ดี พอเขาเห็นว่าเราปลูกทุเรียนได้ ก็มีชาวบ้านเริ่มมาปลูกกันด้วย คิดจะปลูกเพิ่มแต่ก็เกินกำลังเรา จึงมาสนใจการเพิ่มคุณภาพ เป็นทุเรียนปลอดภัย GAP มาตั้งแต่ปี 64, 65 และปีนี้ 66 ทุเรียนทุกลูกที่ตัดขายต้องแก่จัดอายุราว 120 วัน สำหรับปีนี้ช่วงออกดอกอากาศร้อนมาก ทุเรียนจับลูกน้อย และมาเจอพายุต้นฤดูฝน ผลผลิตจึงได้ไม่ถึง 2 ตัน ทำให้ปีนี้เราขายทุเรียนกิโลกรัมละ 170 บาท
...
เจ้าของสวนลุงเส็ง กล่าวอีกว่า เราแบ่งต้นทุเรียนทั้งหมดเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ต้น เพื่อทำรุ่นทุเรียนเป็น 4 รุ่น ให้แต่ละรุ่นมีลูกและสุกไม่พร้อมกัน ด้วยการกำหนดการให้น้ำ ตั้งแต่ก่อนออกดอก, ขณะออกดอก, ตอนลูกเล็ก, ตอนลูกหนุ่มสาว, ลูกที่เตรียมเก็บผลผลิต ซึ่งแต่ละช่วงทุเรียนต้องการน้ำไม่เท่ากัน ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สวนลุงเส็ง@นายูง ค่อยๆ พิจารณาทุเรียนทีละลูก ทยอยเก็บออกมาขาย
ด้าน นางกาญจนา วิเท่ห์ เกษตรอำเภอนายูง เปิดเผยว่า อำเภอนายูง สามารถปลูกผลไม้ได้ดี อาทิ เงาะ, ลองกอง, ลำไย, มังคุด และทุเรียน สร้างรายได้มากกว่าพืชเดิม จึงมีคนสนใจปลูกมากขึ้น แต่เป็นแปลงไม่ใหญ่ หรือเป็นแปลงผสมผสาน ส่วนแปลงขนาดใหญ่มากกว่า 10 ไร่ เริ่มมีการลงทุนบ้างแล้ว โดยเฉพาะทุเรียน กระจายอยู่ใน 4 ตำบล คือ นายูง, บ้านก้อง, นาแค และโพนทอง มีรวม 65 ราย 294 ไร่
...
เกษตรอำเภอนายูง กล่าวด้วยว่า ทุเรียนที่ อ.นายูง มีคุณภาพเท่าหรืออาจจะดีกว่า ทุเรียนแหล่งปลูกมีชื่อเสียง มีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัว อาทิ กลิ่นไม่รุนแรง หวาน มัน กรอบ นุ่มใน ทำให้มีลูกค้าประจำสั่งซื้อจากสวน ขณะที่ อ.นายูง มีชาวสวนที่มีองค์ความรู้ มีประสบการณ์มานาน สามารถถ่ายทอดให้กันเองได้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรอำเภอสนับสนุนสวนผลไม้ปลอดภัย หรือ GAP “สวนลุงเส็ง” และอีกหลายสวนได้รับการรับรองแล้ว โดยเรามีเป้าหมาย “ทุเรียนนายูง” จะเป็นทุเรียน GAP ทั้งหมด.