ปศุสัตว์ครบุรี เตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือที่โคราช เฝ้าระวังโรคในโคกระบือหน้าฝน โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อย และโรคคอบวม แนะเกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อล้อรถจากภายนอก ทำความสะอาดคอก กักกันแยกสัตว์ป่วย

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัญชา ชุติมันตานนท์ ปศุสัตว์อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการดูแลเฝ้าระวังโรคในโค กระบือ ช่วงฤดูฝน ซึ่งสภาพอากาศนั้นแปรปรวนตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด สร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกร

นายบัญชา ชุติมันตานนท์ ปศุสัตว์อำเภอครบุรี กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของทุกปี มีสภาพอากาศที่แปรปรวน อีกทั้งลักษณะภูมิอากาศเย็นและความชื้นในฤดูฝน ซึ่งอาจส่งผลทำให้โคและกระบือของเกษตรกร เครียดอ่อนแอ และมีโอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย อีกทั้งความชื้นในฤดูฝนทำให้เชื้อก่อโรคในสิ่งแวดล้อมได้ยาวนานขึ้น ทำให้มีโอกาสพบการระบาดของโรค และสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคปากและเท้าเปื่อย โรคคอบวม ที่มักเกิดในสัตว์ที่มีความเครียดจากการต้องเคลื่อนย้ายจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่ง ซึ่งเชื้อโรคดังกล่าวสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ฟาร์มผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การเคลื่อนย้ายสัตว์ ยานพาหนะ และบุคคล รวมถึงคนเลี้ยง ถังนม และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กรมปศุสัตว์ จึงขอความร่วมมือดำเนินการสังเกตอาการของสัตว์ เช่น ซึม ไข้สูง น้ำลายไหล ไม่กินอาหาร ไรกีบมีแผล แดง อักเสบ มีเม็ดตุ่มใสพุพอง พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อล้อรถจากภายนอกทุกคันที่เข้า-ออกฟาร์ม ตลอดจนทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องแต่งกายอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยในรอบรณรงค์ในสัตว์เป็นประจำ

...

สำหรับฟาร์มที่มีโรคระบาดแล้ว ให้กักแยกสัตว์ป่วยให้ห่างจากสัตว์ปกติให้มากที่สุด แยกอุปกรณ์ของสัตว์ป่วย และสัตว์ปกติ แยกบุคคลสำหรับดูแลสัตว์ป่วย งดอาบน้ำสัตว์ป่วย งดส่งนม งดผสมเทียมจนกว่าสัตว์ตัวสุดท้าย จะหายป่วย และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามพื้นคอกเป็นประจำ ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถแจ้งสัตว์ป่วย หรือ สงสัยว่าเป็นโรคระบาด ได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือสำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ได้ทันที.