ผู้ว่าฯชัยภูมิ เผย แหล่งน้ำทั่วจังหวัด 13 แห่งจ่อวิกฤติ เหลือน้ำสำรองช่วยด้านการประปาอุปโภคบริโภคไม่เกิน 10-20% ส่วนด้านการเกษตรแทบจะไม่เพียงพอ เร่งประสานขอฝนหลวงแล้ว 251 เที่ยว ขณะที่เกษตรกรเริ่มแย่งน้ำเพาะปลูก สั่งเตรียมแหล่งน้ำดิบสำรองผลิตประปา
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ จ.ชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" หรือฝนน้อยในช่วงฤดูฝนปีนี้ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย ดร.สมบัติ มีลักษณะสม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์น้ำตามแหล่งเก็บกักน้ำที่มีทั้งหมดในพื้นที่ทั้งจังหวัดชัยภูมิ ที่มีทั้งหมดกว่า 13 แห่ง ที่ปัจจุบันมีน้ำเหลือน้อยมาก แต่ละแห่งเหลือน้ำที่จะนำมาช่วยทั้งด้านการประปาอุปโภคบริโภคเป็นหลักแต่ละแห่งเหลือไม่ถึง 10-20% เท่านั้น ส่วนด้านการเกษตรแทบไม่เพียงพอได้ พร้อมสั่งการให้นายอำเภอทุกพื้นที่ทั้ง 16 อำเภอ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้อย่างใกล้ชิดจากนี้ปี 2566 ยาวไปจนถึงปีหน้า 2567 ด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์การเตรียมรับมือภัยแล้งในปีนี้ ที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" มีฝนตกน้อยมากในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดทาง จ.ชัยภูมิ ได้ประสานกับทางฝนหลวง ที่มีการเข้ามาช่วยดำเนินการในพื้นที่เพื่อให้เกิดฝนตกมาเติมน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางที่มีทั้งหมดในพื้นที่ ตั้งแต่เดือน เม.ย.2566 ปีนี้ ที่มีการดำเนินการมาแล้วร่วมกว่า 251 เที่ยวบินในการช่วยทำฝนหลวง หรือ ฝนเทียมที่จะสามารถช่วยบรรเทาภัยแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญปีนี้
...
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์น้ำในเขื่อนอ่างเก็บน้ำที่มีทั้งหมด 13 แห่ง ขณะนี้ ก็ยังมีน้อยมาก ซึ่งก็ยังได้ประสานขอฝนเทียมไปที่จาก จ.บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา ให้อีกต่อเนื่องที่ก็พอมีฝนเริ่มตกลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มาก ซึ่งก็พอได้บรรเทาพื้นที่การเกษตรไร่ นา ได้บ้างในขณะนี้ ที่ไม่อยากให้เกิดความเสียหายขาดน้ำยืนต้นตาย ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจภาคการเกษตรที่ จ.ชัยภูมิ ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพนี้เป็นหลัก รวมทั้งให้การประปาที่มีทุกพื้นที่ใน จ.ชัยภูมิ ต้องเร่งเตรียมน้ำดิบไว้สำรองทุกพื้นที่ หากเกิดสถานการณ์ภัยแล้งยาวไปจนถึงปีหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ตามโรงเรียนโรงพยาบาลทุกพื้นที่จะต้องมีแหล่งน้ำเพื่อการประปาไม่ให้ขาดแคลนให้ได้ด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวอีกว่า รวมทั้งมีรายงานเกิดการแย่งน้ำที่เริ่มพบว่ามีในหลายพื้นที่ ที่น้ำที่ส่งไปเพื่อการผลิตประปา ก็จะมีประชาชนเกษตรกรในพื้นที่ไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำดักสูบเข้าพื้นที่การเกษตร ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าห้ามยาก แต่ก็อยากให้เกิดเข้าใจที่ควรจะสูบน้ำไปช่วยพื้นที่การเกษตรพอให้พื้นที่ไม่ให้เกิดเสียหายขาดน้ำ แต่ไม่ควรสูบไปกักเก็บมากเกินไป อย่างพื้นที่ประปาอำเภอบ้านเขว้า ทางแหล่งเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรปล่อยมาไม่น้อยกว่าวันละ 200,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แต่ต้นน้ำถูกชาวบ้านดักสูบลงพื้นที่การเกษตรเกือบหมด ทางปลายน้ำมาไม่ถึงกระทบระบบการประปาหลายหมู่บ้าน ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ตามมาอีกจำนวนมากในหลายพื้นที่
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า อยากขอความร่วมมือประชาชน ในการที่จะดักสูบแย่งน้ำจากระบบประปาในช่วงนี้ ทางการประปาทุกแห่งอาจจะต้องมีการเตรียมพื้นที่สำรองน้ำไว้ หรือมีการต้องใช้รถไปขนน้ำมาผลิตประปา หรือใช้การวางท่อสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในจุดนี้มากขึ้นอีกด้วย โดย ต้องเตรียมแผนมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งในปีนี้ ตามแนวทางทั้งหมดไว้ทุกพื้นที่ในปลายปีนี้ยาวไปจนถึงปีหน้าปรากฏการณ์เอลนีโญ ยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะมีฝนตกมากน้อยเท่าใด และขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ ช่วยกันประหยัดน้ำใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชาวชัยภูมิ ทุกคนฝ่าผลกระทบภัยแล้งในปีนี้ไปร่วมกันให้ได้.