ผอ.กกต.นครพนม เผยกรณียึดเงินสดพ่อค้าสนับสนุนพรรคเพื่อไทย สอบสวนแล้วไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงความผิดฐานซื้อเสียง ส่วนข่าว "แขวนว่าที่ ส.ส. เพื่อไทย 2 เขต" ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แค่ลือกันในโซเชียล เบื้องต้นมีความเห็นรับรองผู้ได้รับเลือกตั้งทั้ง 4 เขต
วันที่ 15 มิ.ย. 66 ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าความเคลื่อนไหว คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ภายหลังมีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ใน 4 เขต โดยมีว่าที่ ส.ส.ชนะการเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ พรรคภูมิใจไทย และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายชูกัน กุลวงษา พรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้สรุปความเห็นเบื้องต้น เสนอไปยัง กกต.กลาง ให้รับรองทั้งหมด 4 เขต ในส่วนของประเด็นการร้องเรียน มีเพียงการร้องเรียนเกี่ยวกับการหาเสียงของบางพรรคการเมือง ที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตามขั้นตอนกฎหมาย และเสนอไปยัง กกต.พิจารณา ยังไม่พบปัญหาความผิดการซื้อเสียง สำหรับข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับผลรับรองการเลือกตั้ง ที่มีการแขวนว่าที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 1 กับ 2 ยังไม่มีการยืนยันความชัดเจน จาก กกต.กลาง เป็นเพียงข่าวลือในโลกโซเชียล
ด้าน นายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ตามระเบียบข้อกฎหมาย ในการพิจารณารับรองผลการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะต้องมีการพิจารณารับรอง แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง คือวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดยในส่วนของ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ได้สรุปความเห็นเบื้องต้น เสนอไปยัง กกต.กลาง ให้มีการรับรองผลการเลือกตั้ง ทั้งหมด 4 เขต ส่วนปัญหาการร้องเรียนยังมีประเด็นในเรื่องของการหาเสียงของบางพรรคการเมือง แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ และอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง และเสนอไปยัง กกต.กลาง ตามขั้นตอนของกฎหมาย ถึงแม้จะมีการเสนอความเห็นเบื้องต้นเพื่อรับรองผลการเลือกตั้ง แต่ยังสามารถไต่สวน หรือสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ในระยะเวลา 1 ปี แต่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน ตามกฎหมาย
...
นอกจากนี้ กรณีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางตำรวจชุดสืบสวนนครพนม มีการตรวจยึดเงินสดพ่อค้ารายหนึ่ง เกือบ 2 แสนบาท เป็นการดำเนินการของตำรวจชุดสืบสวน ไม่มีเจ้าหน้าที่ กกต.นครพนม ร่วมด้วย จนกระทั่งภายหลัง มีการแจ้งมายัง เจ้าหน้าที่ กกต.นครพนม ให้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามอำนาจหน้าที่ แต่พบเพียงเงินสด ไม่พบเอกสารหลักฐานที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เป็นเงินสดส่วนตัวที่นำติดตัวมาซื้อของ ถือว่าปกติทั่วไปทุกคนสามารถพกพาเงินสดได้ในช่วงการเลือกตั้ง หลังการตรวจสอบ จึงได้นำเงินสดดังกล่าวคืนเจ้าของ โดยไม่มีความผิดการซื้อเสียง
ส่วนกรณีอื่นๆ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ผ่านมา ไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง การซื้อเสียง มีเพียงการร้องเรียนทั่วไปเกี่ยวกับการหาเสียง แต่ยังไม่ยืนยันความผิด โดยทาง กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อหาความชัดเจน อย่างไรก็ตาม การรับรองการเลือกตั้ง จะต้องรอทาง กกต.กลาง ยืนยันมาเป็นหนังสือเท่านั้น ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อโซเชียล ถือว่ายังไม่มีความชัดเจน