หญิงป่วยหนัก ระยะสุดท้าย ถอดเครื่องช่วยหายใจ ไร้ชีพจร-แต่ยังไม่ตาย ชาวบ้านเชื่อ "ผีชะมก" สิงร่างขอส่วนบุญไม่ยอมให้ไป ล่าสุดอยู่แบบไร้ชีพจรมาครบ 15 วันแล้ว ร่างกายเริ่มทรุดหนัก ครอบครัวสุดทุกข์ทรมาน แม่เผย "หมอปลา" จะเดินทางมาช่วย 8 มิ.ย.นี้-หวังให้ลูกพ้นทุกข์  

จากกรณีที่ นายสมจิตร อายุ 68 ปี และนางสำราญ อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองมน ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นิมนต์พระมาช่วยทำพิธีปัดเป่าสิ่งลี้ลับออกจากตัว น.ส.ปฤษณา อายุ 45 ปี ลูกสาว ซึ่งป่วยระยะสุดท้ายนอนรักษาที่ รพ.หลายวันแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น แพทย์บอกให้ญาติทำใจและอนุญาตให้พาผู้ป่วยกลับมาบ้านได้ พอมาถึงบ้านทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต่างพากันมาร่ำลาและขออโหสิกรรมเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสภาพร่างกายของ น.ส.ปฤษณา เหลืองซีดไม่รับรู้อะไรแล้ว แขนขาเขียวช้ำ ซึ่งทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นอาการของคนใกล้สิ้นใจ แต่ที่ครอบครัวแปลกใจคือตรวจไม่พบชีพจร แต่ยังหายใจอยู่ ชาวบ้านและคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านจึงเชื่อว่า น.ส.ปฤษณา เสียชีวิตไปแล้ว แต่ที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้น เป็นเพราะมี "ผีชะมก" หรือ "ผีปอบ" มาสิงร่างเพื่อขอส่วนบุญ จึงไม่ยอมให้ร่าง น.ส.ปฤษณา จากไปไหน

ล่าสุด วันนี้ (5 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพร่างกายของ น.ส.ปฤษณา ทรุดลงกว่าเดิม เนื้อตัวซีด บางจุดเริ่มปูดดำ มีหนองเป็นสีดำ มือแห้งเหี่ยว และตาขาวโพลน ร่างกายและอวัยวะไม่ตอบสนอง แต่ยังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

จากการสอบถาม นางสำราญ ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า เห็นลูกสาวนอนทนทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้มา 15 แล้ว สงสารลูกมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงไปดูหมอมาอีกครั้ง หมอดูก็บอกเหมือนเดิมว่า ยังมีผีปอบอยู่ในร่างลูกสาว ทำให้ยังไม่สิ้นใจ ส่วนที่ หมอปลา บอกว่าจะมาช่วยเหลือนั้น ล่าสุดทางหมอปลาได้โทรศัพท์มาพูดคุยบอกว่า จะเดินทางมาในวันพุธที่ 8 มิ.ย.นี้ แม่ก็หวังว่าหมอปลาจะช่วยลูกสาวให้พ้นทุกข์ได้ ไม่ต้องอยู่อย่างทรมานแบบนี้ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวจะเกิดจากสิ่งลี้ลับหรืออะไรก็แล้วแต่ ตนก็ไม่อยากให้ลูกต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้อีก

...