ตำรวจอุบลราชธานีล้อมจับรถกระบะต้องสงสัย แต่กระบะขับหนี ก่อนจนมุมเจ้าหน้าที่ พบคนขับเป็นนายหน้าค้าที่ดิน อ้างขับหนีเพราะตกใจตำรวจล้อม ค้นไม่เจออะไรผิดกฎหมาย
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ให้ช่วยสกัดรถกระบะต้องสงสัยหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขื่องใน มาตามถนนแจ้งสนิท มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุบลราชธานี
หลังรับแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ก็เข้าสกัดตามเส้นทางถนนแจ้งสนิท ถนนคลังอาวุธ และถนนเลี่ยงเมือง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ต้องสงสัยตามที่แจ้งขับมาตามถนนแจ้งสนิท ถึงแยกขวัญนาทอง เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้จอด แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหลบหนีเข้าถนนคลังอาวุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามถึง 3 แยกดอนกลาง จึงนำรถเข้าขวางรถกระบะคันดังกล่าวไม่ให้หลบหนี
ตรวจสอบภายในรถพบ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี นั่งมาคนเดียวไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเจรจาให้นายเอลงมาจากรถ แต่ไม่เป็นผล พร้อมทั้งนำมือถือออกมาถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 1 ชั่วโมง ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และสงสัยว่าเกิดเหตุอะไร หลังจากที่การเจรจาไม่เป็นผลและประเมินแล้วว่านายเอไม่มีท่าทีเป็นภัยคุกคาม จึงได้ประสานรถสไลด์มาทำการลากเข้าสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี
เมื่อถึงโรงพัก นายเอ จึงยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ และตรวจค้นในรถอย่างละเอียด แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากการตรวจปัสสาวะก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย มีระดับแอลกอฮอล์ในทางเดินหายใจ 18 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
จากการสอบถาม นายเอ ให้การว่า เป็นนายหน้าขายที่ดินของบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ตนเองขับรถไปทำธุระที่อำเภอเขื่องใน ขากลับเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามพร้อมทั้งชักปืนจะยิงตนอย่างไม่มีเหตุผล ด้วยความตกใจจึงได้ขับรถหนีเพื่อกลับบ้านที่ บ้านท่าบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จนมาถึงแยกขวัญนาทองพบสายตรวจดักรออยู่จึงได้หนีไปจนมุมที่สามแยกตลาดดอนกลาง
...
มีตำรวจเข้าล้อมรถ ด้วยความกลัวที่ดื่มเบียร์มาเกรงว่าจะถูกจับเมา จึงไม่ยอมลงจากรถ แล้วถ่ายคลิปเอาไว้จนรถมาลากเข้าโรงพัก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วปล่อยตัวไปเพราะไม่พบการกระทำความผิด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอให้ช่วยสกัดจับก็ลอยแพไม่ติดตามมาตรวจสอบแต่อย่างใด.