นครพนม ผู้ว่าฯ สุดทน ระดมฝ่ายปกครองวางแผนกวาดล้างจับกุม แก๊งอาบัง หลบหนีเข้าเมือง ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อวัน เย้ยกฎหมาย แจกนามบัตรทั่วเมืองหาลูกค้า อ้างเคลียร์แล้ว ส่งส่วยคนมีสีรายเดือน เจอบัญชีเงินกู้ลูกหนี้นับ 100 ราย เจอเศรษฐกิจตกต่ำ แห่กู้นอกระบบประทังชีวิต


วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ที่ จ.นครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผวจ. นครพนม มอบหมายให้ นายสมรักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม ประสานงานร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.เมืองนครพนม วางแผนตรวจสอบกวาดล้างจับกุมขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมาย หลังจากมีการรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ตกเป็นลูกหนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ อ.เมือนครพนม หลายรายถูกข่มขู่คุกคามจากนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด จนกระทั่งมีการวางแผนจับกุมขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ 1 ราย ชื่อนายสุบาส (นามสมมติ) อายุ 28 ปี สัญชาติอินเดีย ตรวจสอบไม่พบเอกสารขออนุญาตเข้าเมือง ขับขี่รถจักรยานยนต์แฝงขายของเร่เข้าไปเก็บดอกเบี้ยรายวันกับลูกค้าในพื้นที่ ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม

ตรวจค้นพบเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมสมุดบันทึกรายชื่อลูกหนี้ จำนวน 2 เล่ม มีรายชื่อลูกหนี้นับ 100 ราย มีการปล่อยกู้ตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยช่วงจับกุม ผู้ต้องหาเครือข่ายเงินกู้อ้างว่ามีการเคลียร์ส่วย จ่ายเงินกับคนมีสีบางกลุ่มเป็นรายเดือน ประมาณเดือนละ 5,000 บาทต่อเจ้า

...

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีนข้อหาความผิดให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยมิได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจกับนายทะเบียน มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ได้มีการเร่งขยายผลจับกุมนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ จ.นครพนม ทุกอำเภอ ที่สร้างปัญหาความเดือดร้อน ข่มขู่คุกคามลูกหนี้ พร้อมให้ประชาชนแจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์ดำรงธรรมในทุกอำเภอ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบขยายผลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พบว่า ปัจจุบันขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบกำลังระบาดในพื้นที่ จ.นครพนม ทุกอำเภอ โดยจะมีการวางเครือข่ายในรูปแบบของการตระเวนขายของเร่ แฝงการหาลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ ให้ลูกหนี้รับเงินกู้รายละตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท คิดดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 20 บาทต่อวัน หากไม่มีให้จะมีการข่มขู่คุกคาม ทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ยังพบข้อมูลเชิงลึกว่ามีขบวนการกลุ่มคนมีสี ผู้มีอิทธิพล เข้าไปเกี่ยวข้องเรียกรับส่วยจากขบวนการปล่อยเงินกู้ ทำให้ขบวนการปล่อยเงินกู้ไม่เกรงกลัวความผิด ปล่อยกู้เย้ยกฎหมาย และมีการว่าจ้างเครือข่ายออกตระเวนแจกนามบัตรทั่วทั้งจังหวัดเพื่อหาลูกค้า โดยอยู่ระหว่างประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ ขยายผลดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้บอกว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ตกงาน ขาดรายได้ และไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนตามสถาบันการเงินในระบบได้ จำเป็นต้องกู้ยืมนายทุนนอกระบบประทังชีวิต.