กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ สอดส่องโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ งบประมาณกว่า 148 ล้าน ผู้รับเหมาทิ้งงาน ทิ้งพื้นที่ก่อสร้างซึ่งเป็นถนนในชุมชนเขตเทศบาล เป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านเดินทางลำบาก ค้าขายไม่ได้ หนี้สินพอกพูน เดือดร้อนมานับปี
วันที่ 11 พ.ค. 2566 เวลา 09.30 น. นายทัศพันธ์ พงษ์เภตรา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นำคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณถนนติดห้างบิ๊กซี หลังจากพบว่าการก่อสร้างมีความล่าช้ามาก ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
โครงการดังกล่าว กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 148,200,000 บาท เพื่อทำการก่อสร้างระบบระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับชาวกาฬสินธุ์ในระยะยาว เริ่มทำสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2562 กำหนดในสัญญาให้แล้วเสร็จ 26 มิถุนายน 2564 แต่เนื่องจากปัญหาและผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด ทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักไป ตลอดระยะที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับผลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ติดตามปัญหาและประสานงานอย่างใกล้ชิดจากจังหวัดกาฬสินธุ์มาโดยตลอด แต่ก็ยังมีความล่าช้าของผู้รับจ้างเหมือนเดิม การสอดส่องครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้รับจ้าง ได้เร่งงานลงมือเพื่อคลายความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งจากการลงพื้นที่ เบื้องต้นพี่น้องประชาชนมีความพึงพอใจในการแก้ปัญหาของทางราชการในระดับหนึ่ง และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ จะช่วยเร่งประสานงานทั้ง 2 ทาง ทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ กรมโยธาธิการและผังเมืองอย่างใกล้ชิดและติดตามจนกว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จ
...
นายทัศพันธ์ พงษ์เภตรา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากชุมชนเมือง ตนเองก็ได้ติดตามกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโยธาธิการและผังเมือง ให้เน้นการทำงาน แบบกัลยาณมิตรเชิงสร้างสรรค์ เพื่อรายงานไปยังกรมตามขั้นตอน ซึ่งงบประมาณครั้งนี้ 148,200,000 บาท และเบื้องต้นทราบว่าผู้รับจ้างมีปัญหาเรื่องเงิน จึงอาจเกิดความสภาพคล่องที่ล่าช้า และอธิบดีฯ ได้กำชับให้ผู้รับจ้างส่งแผนงานให้ทราบทุกอาทิตย์ และควรติดป้ายรายละเอียดของโครงการให้ประชาชนทราบด้วย รวมถึงการใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ในความคืบหน้าของการก่อสร้าง เพราะเช็กตามเนื้องานแล้วผู้รับจ้างได้ดำเนินการช้ากว่าแผนอยู่ 24%
ด้านนายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล รองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองพร้อมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่สอดส่องการใช้จ่ายงบประมาณจำนวน 28 โครงการรวมถึงโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ ที่ลงพื้นที่สอดส่องในครั้งนี้ด้วย ก่อนที่จะมีการประชุมในวันนี้ และในการลงพื้นที่ดูโครงการขุดท่อระบายน้ำ ทราบว่าผู้รับจ้างได้ทิ้งงานไปนาน จึงเป็นเหตุให้พี่น้องประชาชนต้องมารับกรรมและได้รับความเดือดร้อนโดยถ้วนหน้า จึงวานให้ผู้ตรวจราชการได้กำชับการทำงานให้มากกว่านี้
นางพิมพา จงใจภักดิ์ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 11 ต.ในเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนและพี่น้องประชาชนทั้งสองฝั่งถนนได้รับความเดือดร้อนมานานนับปี ไม่สามารถทำมาค้าขายได้ หนี้สินเริ่มพอกพูน เพราะไม่มีรายได้ บางคนบ่นคิดสั้นอยากผูกคอตายก็มี ที่ผ่านมามีแต่หน่วยงานราชการมาตรวจและรับปากว่าจะเร่งดำเนินการ เหมือนหลอกให้ดีใจสุดท้ายก็ทิ้งงานเหมือนเดิม
นางหอมหวล อิ่มเสถียร อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 2/2 ต.ในเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่สุดที่มีเจ้านายมาสอบถามครั้งแรก เพราะตนเองและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก บางวันตอนกลางคืนต้องมานั่งเฝ้าหลุมที่ผู้รับเหมาขุดไว้เพราะกลัวคนผ่านไปมาจะตกลงไปตาย บ้านก็ทรุดผนังปูนบ้านก็แตกร้าว หนี้สินก็ไม่ได้ใช้มา 2 เดือนแล้วเพราะไปมาลำบาก ทุกคนลำบากและพากันอดทนมา 2 ปี จึงฝากให้แก้ปัญหาให้ด่วนด้วย
หลังจากพื้นที่สอดส่องโครงการ นายทัศพันธ์ พงษ์เภตรา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เชิญคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าประชุมที่ห้องฟ้าแดดสูงยาง ศาลากลางจังหวัด เพื่อสรุปปัญหา และรับรายงานความคืบหน้าจากคณะกรรมการธรรมาภิบาล ที่ได้ลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลหาวิธีแก้ปัญหาและดำเนินการต่อไป