สถาบันปิดทองหลังพระ จับมือเอกชน ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์ที่อายุสั้นใช้น้ำน้อย แต่ผลผลิตสูง โดยแหล่งรับซื้อให้ราคาสูงถึง กก.ละ 11 บาท เป็นพืชทางเลือกใหม่ที่จังหวัดสนับสนุน

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นางธนาพร ภูยาดาว รองนายก  อบต.ดอนสมบูรณ์ บ้านดอนยานาง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ที่ปรึกษาประธานกรรมการสถาบันปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ เลขาธิการสถาบันปิดทองหลังพระฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร โครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมี นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ นายปรัชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ นายสันติภาพ โทนหงสา เกษตร จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ เกษตรกร ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ เลขาธิการสถาบันปิดทองหลังพระฯ กล่าวว่า จากภาวะอาหารเริ่มขาดแคลนทางสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ จึงได้ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โปรดิ๊วส จำกัด และสำนักงานเกษตร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นพืชทางเลือกใหม่ อายุสั้น โดยเฉพาะใช้น้ำน้อย ผลผลิตสูง มีประกันราคาและแหล่งรับซื้อจัดเจน สำหรับพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้ดำเนินโครงการต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ 8 อำเภอ จำนวน 128 ราย พื้นที่ 693 ไร่ โดยฤดูกาลผลิตปีนี้เริ่มเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.66 เป็นต้นมา

...

"ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ 17 ราย พื้นที่ 70 ไร่, อ.นามน 42 ราย พื้นที่ 171 ไร่, อ.ร่องคำ 24 ราย พื้นที่ 125 ไร่, อ.ยางตลาด 19 ราย พื้นที่ 211 ไร่, อ.สหัสขันธ์ 8 ราย พื้นที่ 32 ไร่, อ.หนองกุงศรี 10 ราย พื้นที่ 38 ไร่, อ.ห้วยเม็ก 7 ราย พื้นที่ 31 ไร่ และ อ.เขาวง 1 ราย พื้นที่ 15 ไร่ ราคากลางรับซื้อที่ กก.ละ 8.50 บาท ขณะที่แหล่งรับซื้อให้ราคาสูงถึง กก.ละ 11 บาท ขึ้นอยู่กับค่าความชื้น มีเกษตรกรที่มีทักษะและความชำนาญในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 1,080 กก./ไร่ ที่ความชื้น 21% คือนางสมร ศิริภักดิ์ บ้านนาเรียง ต.สามัคคี อ.ร่องคำ อย่างไรก็ตาม ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงขอเชิญชวนเกษตรกรหันมาปลูกมากขึ้น ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งฤดูแล้งและฤดูฝน" เลขาธิการสถาบันปิดทองหลังพระฯ กล่าว

ด้าน นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน มีสภาพที่เหมาะสมกับการปลูกพืชพันธุ์หลายชนิด ทั้งนี้ ก่อนที่จะเพาะปลูกพืชชนิดใด เกษตรกรต้องเลือกพืชชนิดที่ปลูกให้เหมาะสมกับสภาพดินและแหล่งน้ำต้องเพียงพอ ในส่วนของการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ถือเป็นพืชทางเลือกใหม่นั้น ทางจังหวัดและส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริม เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับเกษตรกรมีงานทำและรายได้อย่างยั่งยืน

ขณะที่ นางธนาพร ภูยาดาว รองนายก อบต.ดอนสมบูรณ์ บ้านดอนยานาง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของแปลงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พื้นที่ 77 ไร่ กล่าวว่าเดิมทีในฤดูแล้งจะปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากระยะหลังต้นทุนการทำนาสูง ราคาขายข้าวเปลือกตกต่ำ พอดีได้รับคำแนะนำจากเกษตร อ.ยางตลาด กรณีมีสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เข้ามาส่งเสริมปลุกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงชักชวนเพื่อนชาวนาหันมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แปลงใหญ่ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ปลูกง่าย ดูแลง่าย ได้ผลผลิตสูงกว่าและขายได้เงินมากกว่าปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งปีหน้าและปีต่อๆ ไปก็จะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อีก ทั้งนี้ ได้แจ้งกับทางสถาบันปิดทองหลังพระฯ ในส่วนของการขอรับสนับสนุนเรื่องปัจจัยการผลิต เช่น วัสดุ อุปกรณ์ การให้ปุ๋ย และรถเก็บเกี่ยว เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

ส่วน นางสมร ศิริภักดิ์ บ้านนาเรียง ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับสถาบันปิดทองหลังพระเป็นปีที่ 4 โดย 2 ปีแรกผลผลิตตกต่ำ เนื่องจากสภาพดินไม่ค่อยดี และขาดองค์ความรู้ ในการบริหารจัดการในแปลงข้าวโพด พอได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาส่งเสริม ในด้านของการปลูกและบำรุงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างถูกวิธี ก็ได้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น กระทั่งได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรต้นแบบปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ได้หันมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กันมาก เพราะปลูกง่าย ดูแลง่าย ใช้น้ำน้อย อายุสั้นเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่สำคัญราคารับซื้อแน่นอน มีการประกันราคาและรับซื้อเป็นจำนวนมาก ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จึงได้ผลคุ้มค่ากว่าปลูกพืชชนิดอื่น.

...