ชาวบ้านที่ชุมชนบ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี ถือโอกาสช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ พากันเข้าป่าหาเก็บผักอีลอก หรือ กระบุกป่า เพื่อนำมาแกงกับยอดใบมะขามอ่อนใส่ปลาร้า หรือแบ่งผักใส่ถุงไปขายตามตลาด

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจากหลายพื้นที่ พากันออกไปหาเก็บผักอีลอก หรือ กระบุกป่า ภายในป่าชุมชนบ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อนำกลับไปประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว และจำหน่ายสร้างรายได้เสริม หลังจากช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาในพื้นที่บ้างแล้ว ทำให้กระบุกป่าเริ่มทยอยงอกออกมาจากพื้นดิน ให้ชาวบ้านได้เก็บกันอย่างต่อเนื่อง และนอกจากกระบุกป่า หรือผักอีลอกแล้ว ฝนที่ตกลงมาก็เริ่มสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่า และมีผักอื่นๆ เกิดขึ้นให้ได้เห็น และให้ชาวบ้านได้เก็บกันอีกหลายอย่างด้วย

นายสมหวัง นามเพ็ชร อายุ 39 ปี หนึ่งในชาวบ้านบ้านตลิ่งชัน ที่ได้พาครอบครัวออกไปหาเก็บต้นกระบุกป่า หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ผักอีลอก บอกว่า กระบุกป่า หรือผักอีลอก จะมีให้ได้เก็บหลังจากที่เกิดฝนตกชุกต่อเนื่อง และในปีนี้ฝนมาเร็วกว่าปกติ ผักอีลอกก็ไวกว่าปกติเช่นเดียวกัน โดยวิธีการหาก็ง่ายๆ ด้วยการเดินหาและดึงเก็บ แล้วนำกลับไปเท่านั้น แต่ต้องเลือกหาเก็บเอาเฉพาะที่โตพอ และไม่ต้องขุดเอาถึงเหง้า เพราะส่วนหนึ่งจะทิ้งเอาไว้ เพื่อให้ได้เติบโตอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

...

หลังจากที่ได้ต้นกระบุกป่ามา ก็จะนำมาปลอกเปลือกนอกออก เพราะเปลือกของกระบุกป่าจะแข็ง เปื่อยยาก และทำให้เกิดอาการคัน เมื่อปลอกเปลือกเสร็จแล้ว ก็จะนำมาต้มกับมะขามเปียกจนเปื่อย เพื่อลดความคันของกระบุกป่า ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบต่อกันมา จากนั้นก็จะนำมาแกงด้วยพริกแกง น้ำปลาร้า และเครื่องปรุงต่างๆ แล้วใส่ใบมะขามอ่อนเพื่อความเปรี้ยว ตามด้วยปลาป่นเพิ่มความนัว ตบท้ายด้วยใบแมงลัก ก็จะได้แกงกระบุกป่าสูตรดั้งเดิม ที่หอมอร่อยแบบฉบับวิถีชาวบ้านในชนบท

ส่วนใครที่หาได้จำนวนมาก ก็จะนำมาจำหน่ายภายในหมู่บ้าน ด้วยการแบ่งเป็นถุง ถุงละ 20-30 บาท ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเป็นช่วงแรกของปีที่จะได้กินกระบุกป่ากัน หากขายต้นสดก็จะแบ่งขายเป็นกำๆ ในราคากำละ 20 บาท ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน.