แม่ค้าหน้าวัดพระธาตุพนม รุกที่ธรณีสงฆ์วัดพระธาตุพนม อ้างทำค้าขายมาหลาย 10 ปี ไม่ยอมรับมติวัดพระธาตุพนมจัดระเบียบ ทนายกองทัพธรรมแจงข้อเท็จจริง ต้องทำตามระเบียบสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยว หนุนพระธาตุพนมสู่มรดกโลก ผู้ประกอบการทุกรายต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน แจ้งดำเนินคดีข้อหาบุกรุก พบมีมาเฟียอยู่เบื้องหลัง หวังผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยว

วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีมีผู้ประกอบการบรรดาพ่อค้าแม่ค้า จำหน่ายลอตเตอรี่ ขายดอกไม้ บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม อ้างว่าถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ค้าขายที่เคยทำกินมานานกว่า 10-20 ปี จนกระทั่งคณะกรรมการวัดพระธาตุพนม มีมติให้จัดระเบียบการค้าขาย เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของวัดพระธาตุพนม เพื่อผลักดันให้เข้าสู่มรดกโลก เนื่องจากปัจจุบันยังมีการค้าขายที่ไม่เป็นระเบียบ ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางส่วน ที่ประกอบการค้าขายลอตเตอรี่และขายดอกไม้ ไม่ยอมทำตามมติวัด อ้างว่าทำกินมานานหลาย 10 ปี และมีการรวมตัวประท้วง ประกาศจุดยืนที่จะค้าขายที่เดิม เกิดความวุ่นวาย

...



ภายหลัง นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ในฐานะไวยาวัจกรวัด ประธานดูแลผลประโยชน์วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมคณะกรรมการวัด ลงพื้นที่จัดระเบียบ เพื่อสร้างความเข้าใจกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนที่จำหน่ายดอกไม้ จำหน่ายลอตเตอรี่ ให้ออกจากพื้นที่หน้าประตูวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยว แต่แม่ค้าไม่ยินยอมทำตามระเบียบ และพ่อค้าแม่ค้าบางรายยัดเยียดค้าขายให้กับประชาชนนักท่องเที่ยว จึงต้องมีการจัดระเบียบ ทำให้เกิดการปะทะระหว่างพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนกับคณะกรรมการวัด รวมถึงทนายกองทัพธรรม

โดยพ่อค้าแม่ค้าอ้างว่าเป็นวิถีชีวิต ทำการค้าขายมานานหลายปี และไม่ยินยอมที่จะปฏิบัติตามมติวัด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบมีผลประโยชน์ทางการเมือง รวมถึงกลุ่มมาเฟียที่มีส่วนได้เสียเข้ามาอยู่เบื้องหลัง หวังคัดค้านการผลักดันมรดกโลก เนื่องจากมีการแอบแฝงหาผลประโยชน์จากวัดพระธาตุพนม เพราะมีรายได้จากประชาชน นักท่องเที่ยวมานานหลายปี

ล่าสุด นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ในฐานะไวยาวัจกรวัด ประธานดูแลผลประโยชน์วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพ่อค้าแม่ค้า จำหน่ายดอกไม้และลอตเตอรี่ จำนวนกว่า 100 ราย ในข้อหาฐานความผิดบุกรุกที่ธรณีสงฆ์เป็นหลัก และไม่ทำตามระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนา พร้อมยืนยันว่าพื้นที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ จะต้องเป็นไปตามระเบียบวัด และจะต้องไม่ขัดต่อระเบียบการค้าขายของวัด

"หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า กรณีมีภาพเผยแพร่ไปตามสื่อโซเชียลต่างๆ ที่เป็นภาพของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจ ด่าทอเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขัดต่อระเบียบการค้าของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ทั้งนี้ ไม่มีเจตนารังแกผู้ประกอบการ แต่เป็นการจัดระเบียบตามกฎหมาย และสร้างภาพลักษณ์ต่อการท่องเที่ยวสายศรัทธา ยืนยันหากไม่ปฏิบัติตาม ไม่ทำตามระเบียบข้อกฎหมาย จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดให้ถึงที่สุด".