เมียโซเฟอร์ยืนยัน ตั้งแต่ทำงานมา สามีไม่เคยได้รับเงินเดือนเต็ม 3,000 บาท ลั่นที่พูดทุกอย่างเป็นความจริง หากโกหกขอให้มีอันเป็นไปใน 7 วัน ด้านผู้ว่าเผยได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องทั้งหมดแล้ว
วันที่ 11 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นางสุภาพร อธิธาดา อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ออกมาอัดคลิประบายความในใจลงในโซเชียล จากการทำหน้าที่ของสามี นายมานพ อธิธาดา พนักงานขับรถโดยสารในบริษัทแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่า สามีต้องขับรถไปกลับชัยภูมิ-กรุงเทพฯ ระยะทางเที่ยวละ 350 กม. ใช้เวลาวิ่ง 6 ชั่วโมง วันละ 3 เที่ยว ไม่มีโชเฟอร์คนอื่นคอยสับเปลี่ยน
ทำให้สามีไม่ได้พักผ่อน ซึ่งอาจจะเหนื่อยจนวูบ จนเกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารได้ ทั้งยังอ้างถึงการทำงานไม่เป็นไปตามกฎหมายของกระทรวงแรงงาน จนทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น
ล่าสุดนาง สุภาพร อธิธาดา พร้อมด้วย นายมานพ อธิธาดา สามี เดินทางมาพบสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามปัญหาที่ร้องเรียน กรณีที่ถูกนายจ้างเอาเปรียบเงินค่าจ้าง ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งนายจ้างอ้างว่า นางสุภาพร นายมานพ พูดบางเรื่องไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะเงินค่าจ้างกับเงินเบี้ยเลี้ยง
...
โดย นางสุภาพร พร้อมกับสามี ได้นำเหรียญเจ้าพ่อพญาแล ขึ้นมาสาบานต่อหน้าสื่อมวลชนว่า หากพูดความเท็จ ขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้งว่า ตนเป็นคนโพสต์ในเฟซบุ๊ก และเป็นคนพูดเองว่า ได้รับเงินเดือน 3,000 บาท
ส่วนเบี้ยเลี้ยงได้รับเที่ยวละ 400 บาท คือขาไป 400 และขากลับ 400 บาท รวมเป็นเงิน 800 บาท ส่วนเงินเดือน 3,000 บาท นั้น ตั้งแต่ทำงานมา ยังไม่เคยได้รับเต็ม 3,000 บาทสักเดือน และเงินเบี้ยเลี้ยงของสามีตน ก็ถูกหักจากเงินที่เคยยืมมาใช้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ได้ทยอยส่งคืนเป็นบางส่วนแล้ว
ดังนั้นในวันนี้ เมื่อตัวแทนนายจ้างและทนายมา ตนก็จะขอให้คืนเงินที่เก็บสะสมไว้ หลังจากหักค่ายืมแล้วคืนให้กับตนด้วย จะได้จบๆ กันไป ส่วนตามที่มีข่าวว่านายจ้างจะฟ้องร้องตนนั้น ก็เป็นสิทธิของนายจ้าง ตนคงไม่สามารถไปห้ามได้ แต่ตนคงไม่มีเงินไปจ้างทนายมาสู้คดีหรอก นอกจากจะเล่าความจริงทั้งหมดให้กับศาลท่านฟัง ซึ่งตนเชื่อว่าความจริงก็คือความจริง ศาลท่านจะพิจารณาด้วยหลักแห่งความเป็นจริง
ด้าน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า มองในมุมบวก ก็ถือเป็นเรื่องดี ที่เราได้เห็นความจริงอีกด้านที่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่ทุกจังหวัดหันมาให้ความสำคัญ กับการออกมาพูดของนางสุภาพร
ดังนั้น จังหวัดจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถโดยสารประจำทาง ส่วนผู้ประกอบการ ก็ต้องขอความร่วมมือ ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ในความรับผิดชอบของตน ให้เคร่งครัดในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยเฉพาะพนักงานขับรถ ห้ามกระทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด.