ชาวบ้านที่ร้อยเอ็ดเดือดร้อน หลังท้องฟ้าปกคลุมด้วยขี้เถ้าใบอ้อยลอยเต็มท้องฟ้า วอนเจ้าของไร่อ้อยหยุดเผา วัด โรงเรียน เด็กเล็ก คนแก่ ชาวบ้านหายใจลำบากแสบจมูกและวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า หลังโรงงานหีบอ้อยเริ่มเปิดรับผลผลิตจากชาวไร่ ประจำปี 2566 ที่ จ.ร้อยเอ็ด จัดได้ว่า เป็นพื้นที่ปลูกอ้อยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังคงพบมีเผาอ้อย เพื่อสะดวกในการตัดอ้อย ต่างจากการตัดอ้อยสด ที่ต้องใช้เวลาสางใบออกก่อน ทำให้ได้ปริมาณที่น้อยลง เจ้าของไร่จึงนิยมจุดไฟเผาก่อนเพราะอ้อยไฟไหม้เวลาตัดสามารถตัดได้เร็วกว่าอ้อยสด

ดังนั้นการเผาไร่อ้อย ส่วนใหญ่เจ้าของไร่จะแอบเผาช่วงเช้ามืดและช่วงหัวค่ำ เพราะฉะนั้นทุกเช้าและหัวค่ำจะมีฝุ่นละอองและเขม่าจากใบอ้อย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หิมะดำ" จะปลิวไปตกยังบ้านเรือนและพื้นที่ชุมชนต่างๆ เต็มบริเวณทุกวัน ขึ้นอยู่กับทิศทางลม สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

...

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่ที่ 10 บ้านโคกล่าม ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเผาไร่อ้อยได้พบกับชาวบ้าน ชาวบ้านได้โชว์คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ นาทีขณะที่ไฟกำลังโหมลุกไหม้ป่าอ้อยแสงไฟสว่างมองเห็นแต่ไกล เสียงอ้อยถูกไฟไหม้ดังลั่นโครมคราม อีกทั้งเขม่าซางอ้อยลอยคุ้งเป็นหิมะดำลอยในอากาศ ปลิวเข้าในชุมชนหลายตำบล ในอำเภอโพนทอง จนได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก

นายวินัย เครือแวงมูล ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ในแต่ละปี หลังจากโรงงานน้ำตาลได้เปิดรับซื้ออ้อย ทำให้เกษตรกรที่ปลูกอ้อยในพื้นที่ตำบลหนองใหญ่ เร่งเก็บเกี่ยวอ้อยเพื่อส่งไปขายยังโรงน้ำตาล แต่ก็มีกลุ่มเกษตรกรที่อาจจะใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง คือการเผาไร่อ้อยเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บเกี่ยว ซึ่งการเผาแต่ละครั้งก็สร้างฝุ่น PM 2.5 และควันพิษลอยคลุ้งในอากาศ ก่อนจะตกลงในบ้านเรือนประชาชน และแหล่งกักเก็บน้ำ บ้างก็ลอยมาติดตามเสื้อผ้าที่ตากไว้ ต้องเก็บมาซักใหม่ นอกจากนี้ยังทำให้หายใจลำบาก ทั้งเด็ก คนชรา ต้องอาศัยกันอยู่อย่างยากลำบาก ซึ่งบ้านของตนก็เพิ่งสร้างเสร็จยังไม่มีฝ้า จึงทำให้เศษขี้เถ้าและเขม่าจากการเผาไร่อ้อยตกเกลื่อนเต็มพื้นบ้าน



ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวด้วยว่า อยากวิงวอนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ลงมาดูแลแก้ไขอย่างจริงจังสักที เพราะก่อนหน้าก็เคยมีการประกาศห้ามเผาแล้ว แต่ก็ยังมีการแอบเผาอยู่ ตนเคยร้องเรียนผ่านหน่วยงานในท้องถิ่นแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดลงมาแก้ไขให้ประชาชนได้เลย ชาวบ้านก็เดือดร้อนกันมาก เพราะได้รับผลกระทบจากการเผาอ้อยของเกษตรกร.