ชาวพุทธทั้งไทยลาวแห่ทำบุญเวียนเทียนบูชานมัสการองค์พระธาตุพนม พาเศรษฐกิจของจังหวัดและการค้าสุดคึกคักในรอบ 2 ปีหลังโควิด-19 ระบาด ธุรกิจการค้า ขายมันแกวหวาน บริการรับฝากรถสร้างรายได้เงินสะพัด
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยว บุญใหญ่อีสาน บุญเดือนสามงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2566 ถือเป็นงานประเพณีสำคัญจัดขึ้นทุกปี ในช่วงเดือนมกราคม โดยปีนี้ถือว่าจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม 2566 ถึง 6 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 9 วัน 9 คืน สำหรับวันนี้เป็นคืนที่สาม
...
โดยบรรยากาศทั่วไปมีประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยชาวลาว วันละหลายหมื่นคน ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร นมัสการองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ยิ่งในปีนี้ถือว่าคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากงดจัดงานมาเป็นเวลา 2 ปี ผลกระทบจากโควิด-19 ระบาด ส่วนปีนี้ตลอดทั้งวันประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว ได้เดินทางมาแสวงบุญ สักการบูชาองค์พระธาตุพนม ตามประเพณีความเชื่อ ส่วนในช่วงเย็นจะมีการเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา จนถึงคืนสุดท้าย
ขณะเดียวกันได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว กลับมาคึกคักอีกครั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พักถูกจับจองเต็ม โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีอาชีพปลูกมันแกวหวานตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ในช่วงนี้เป็นโอกาสทอง นำมันแกวหวาน ผลผลิตสินค้าเกษตรขึ้นชื่อมาวางขาย สร้างรายได้สะพัดวันละกว่าหมื่นบาท พบว่าแต่ละปีมีเงินหมุนเวียนจากอาชีพขายมันแกวหวาน ในช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนมปีละหลาย 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีอาชีพเสริมบริการรับฝากรถ ที่สร้างรายได้หมุนเวียนสะพัดในพื้นที่ ทั้งนี้งานนมัสการองค์พระธาตุพนม ถือว่าส่งผลเกิดอานิสงส์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้ทุกอาชีพ.