นักเรียนโคราชเฮ ศธ.ยกเลิกระเบียบไว้ทรงผม เผยเทรนด์เกาหลีมาแรง ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียน เตรียมหารือแก้ระเบียบใหม่ให้ตรงใจวัยโจ๋
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 66 ได้ลงนามในประกาศยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 ซึ่งให้อำนาจโรงเรียนในการกำหนดทรงผมว่าจะไว้สั้น หรือยาวได้ตามความเหมาะสม โดยมีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศ
วันที่ 25 มกราคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของนักเรียน และผู้บริหารโรงเรียนขนาดใหญ่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ถึงแนวทางการดำเนินการหลังจากประกาศนี้มีผลบังคับใช้ โดยไปสำรวจที่โรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ มีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1-ม.6 รวมกันกว่า 4,000 คน พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ได้ทราบข่าวการประกาศยกเลิกระเบียบการไว้ทรงผมแล้ว หลายคนรู้สึกดีใจที่ได้ไว้ทรงผมที่ตนเองชอบ โดยเฉพาะนักเรียนชาย ซึ่งระบุว่าเทรนด์ทรงผมพระเอกเกาหลีกำลังมาแรง ที่ก่อนหน้านั้นไม่สามารถไว้ทรงผมเทรนด์เกาหลีได้ เนื่องจากจะผิดระเบียบของโรงเรียน
นายรัชพล แก่นทองหลาง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/1 และเป็นประธานสภานักเรียนโรงเรียนบุญวัฒนา กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการที่ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน ปี พ.ศ. 2563 และให้อำนาจโรงเรียนกำหนดทรงผมเอง เพราะจะทำให้นักเรียนมีโอกาสได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงร่วมกับโรงเรียนว่าควรจะไว้ทรงผมแบบใดดี ให้ถูกใจนักเรียน และไม่กระทบต่อการเรียนการสอน ซึ่งตนคิดว่าการไว้ทรงผมไม่เกี่ยวกับผลการเรียนแน่นอน แต่ก็ต้องให้มีความเหมาะสม ไม่สุดโต่งจนเกินไป ซึ่งเมื่อมีการหารือและตกลงร่วมกันระหว่างนักเรียนและโรงเรียนแล้ว ก็ให้ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด และให้ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบนั้นอย่างเคร่งครัด เพราะการมีระเบียบวินัยจะเป็นผลดีกับลักษณะนิสัยของนักเรียน ติดตัวไปใช้ในสังคมเมื่อจบการศึกษาไปแล้ว
...
ด้านนายสุพล จอกทอง ผอ.โรงเรียนบุญวัฒนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนบุญวัฒนา ได้ใช้ระเบียบการไว้ทรงผมของกระทรวงศึกษาธิการ แต่หลังจากที่ทราบข่าวเรื่อง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน พ.ศ. 2563 และให้อำนาจโรงเรียนกำหนดทรงผมเอง ทางโรงเรียนบุญวัฒนา ก็ต้องมาหารือกันใหม่ โดยทางโรงเรียนเน้นที่การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย 4 ฝ่าย ได้แก่ โรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่งจะต้องมีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือกำหนดระเบียบการไว้ทรงผมนักเรียนใหม่ ทั้งนี้ เป็นห่วงเรื่องของทรงผมนักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิง เพราะนักเรียนหญิง ซึ่งมีผมยาว ก็จะมีการผูกโบกันเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แต่นักเรียนชายหลายคนทุกวันนี้ จะมีทรงผมเทรนด์เกาหลีเข้ามาทีอิทธิพล ทำให้บางคนอยากจะไว้ผมยาวเกินระเบียบเดิมที่วางไว้ ทำให้เกิดความไม่เสมอภาคกัน ครูก็ไม่สามารถเข้าไปไล่ตักเตือนทุกคนได้ เพราะถ้าทำอะไรที่ขัดใจนักเรียนมากไปก็จะกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก ดังนั้นถ้าได้มีการหารือร่วมกันแล้วมีข้อตกลงที่ชัดเจนออกมาประกาศใช้ในโรงเรียน และนักเรียนก็เห็นด้วยพร้อมปฏิบัติตาม ก็จะทำให้ครูไม่ลำบากใจด้วย ซึ่งคาดว่าระเบียบใหม่จะบังคับใช้ไม่ทันเทอมนี้ เพราะจะต้องหารือกันก่อน แล้วค่อยกำหนดออกมาประกาศใช้ในเทอมหน้าต่อไป.