"วัดที่บุรีรัมย์" จ้างเปลี่ยนปล่องเมรุ แต่เครนรับน้ำหนักไม่ไหว ล้มทับศาลาการเปรียญพังยับ พระหนีตายกระเจิง ชาวบ้านติงลบหลู่เมรุ-คนขับเครนไม่ทำพิธีขอขมาก่อน ด้านกรรมการวัดบอกผู้รับเหมามักง่าย ไม่ทำตามคำแนะนำเจ้าอาวาส รีบเร่งงานให้เสร็จ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เบื้องต้น คาดความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดจำปา ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เกิดเหตุรถเครนล้มทับศาลาการเปรียญของวัด ระหว่างกำลังซ่อมแซมเมรุภายในวัด ทำให้ศาลาการเปรียญได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอยากจะให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้รับเหมา

จากการตรวจสอบวัดดังกล่าว พบว่าศาลาการเปรียญและตัวเมรุได้รับความเสียหายค่อนข้างหนัก นอกจากนี้ยังพบรถเครนพลิกตะแคงได้รับความเสียหายอีก 1 คัน

จากการสอบถาม พระวิชัย กิติศาโร อายุ 60 ปี พระลูกวัดดังกล่าว เล่าว่า เจ้าอาวาสได้จ้างผู้รับเหมามาเปลี่ยนปล่องควันเมรุ จากปูนเป็นสแตนเลส เพราะปล่องไฟใช้มานานกว่า 40 ปี ช่วงเกิดเหตุมีคณะกรรมการมาเฝ้าดูระหว่างการยกเอาปล่องไฟเดิมออก ทันใดนั้นเครนได้ล้มลงเสียงดังสนั่น ทำให้คณะกรรมการวัดและพระที่อยู่บริเวณนั้น ต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

...

ด้าน นางสมปอง ละประโคน อายุ 65 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวข้างวัด เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดังสนั่น คิดว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มารู้อีกทีตอนเช้าของวันนี้ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบ แต่ได้ยินชาวบ้านเล่าต่อกันว่าผู้รับเหมาลบหลู่เมรุ เพราะไม่มีการทำพิธีขอขมาก่อนจะทำการรื้อถอน เห็นเพียงจุดธูปดอกเดียวแล้วลงมือทำงาน สิ่งที่มองไม่เห็นไม่ควรจะลบหลู่ หรือทำแบบง่ายๆ เพราะแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน 

ด้าน นายมานพ สวัสดี อายุ 60 ปื คณะกรรมการวัดดังกล่าว เล่าว่า ปล่องเมรุเดิมก่อด้วยอิฐและปูน ซึ่งมีความสูงและหนา มีน้ำหนักกว่า 5 ตัน ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าอาวาสให้แบ่งตัดออกเป็น 3 ท่อน แล้วใช้เครนยกลงมาทีละท่อน เพื่อความปลอดภัย แต่ผู้รับเหมาเลือกตัดแล้วยกทีเดียว เหมือนต้องการให้งานเสร็จเร็วๆ แต่ลืมคำนึงถึงเครนว่าจะยกไหวหรือไม่ เท่าที่มองด้วยตาเปล่าเครนตัวเล็ก ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2 ล้านบาท ยังไม่ได้คุยกับผู้รับเหมาถึงรายละเอียดการรับผิดชอบหลังจากนี้ ซึ่งต้องรอเจ้าอาวาสกลับมาจากต่างจังหวัดก่อน