เพลิงนรกเผาร้านทองอดีตนายกเล็กเมืองน้ำดำวอดเสียหายกลางดึก ย่างสดเมียและหลานสาววัย 16 ดับอนาถคากองเพลิง ก่อนเกิดเหตุมีเสียงปลั๊กไฟโต๊ะไหว้บรรพบุรุษชั้นล่างระเบิดเกิดเปลวไฟลุกไหม้ เจ้าของร้านพยายามใช้ถังดับเพลิงเข้าฉีด แต่เอาไม่อยู่ ไฟลุกลามขึ้นไปชั้นสองและสามอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ภรรยาและหลานที่พักอยู่ชั้นบนหนีลงมาไม่ทัน นักผจญเพลิงพยายามลุยเข้าไปช่วย แต่อาคารติดเหล็กดัดเข้าไปไม่ได้ถูกคลอกตายทั้งคู่ ส่วนอดีตนายกบาดเจ็บสาหัส ตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เหตุไฟไหม้ย่างสด 2 ศพ เมียและหลานสาวอดีตนายกเทศมนตรีเมืองน้ำดำรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ร.ต.ท.พิพัฒน์พงศ์ มหาชัย รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้ร้านทองลิ้มเคียนฮวด สาขา 3 เลขที่ 177/4-5 ถนนเทศบาล 23 เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศ มนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่รถดับเพลิงเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์และพื้นที่ใกล้เคียงไปฉีดน้ำดับไฟ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา เป็นร้านทองเก่าแก่ของนายวิชิต แสงโสภาพรรณ อายุ 76 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ด้านหลังติดตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่มควันพวย พุ่งออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 10 คัน และรถกระเช้าดับเพลิงเข้าสกัดกั้นเปลวไฟไม่ให้ลุกลามไปอาคารร้านค้าที่อยู่ติดกัน ขณะเดียวกันทราบว่ามีคนติดอยู่บนชั้น 3 จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงพยายามเข้าไปช่วยเหลือออกมา แต่เข้าไปไม่ได้ เนื่องจากตัวอาคารมีการติดลูกกรงเหล็กดัด อีกทั้งถนนหน้าร้านที่เกิดเหตุค่อนข้างคับแคบ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างลำบาก โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่า 3 ชม.
...
หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคากองเพลิง 2 ศพ ทราบชื่อนางสมพิศ แสงโสภาพรรณ อายุ 74 ปี และ น.ส.ตีรณา แสงโสภาพรรณ อายุ 16 ปี เป็นภรรยาและหลานสาวของนายวิชิต แสงโสภาพรรณ สภาพถูกไฟไหม้เกรียมเกือบทั้งตัว ส่วนนายวิชิตได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำส่ง รพ.กาฬสินธุ์ สอบสวนพยานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีเสียงดังคล้ายระเบิดจากปลั๊กไฟโต๊ะไหว้บรรพบุรุษชั้นล่าง ช่วงเกิดเหตุเจ้าของร้านนำถังดับเพลิงฉีด แต่ไม่สามารถดับได้ทัน ไฟลุกลามไปชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว
ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนเร่งดับไฟและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ด้านใน แต่การปฏิบัติหน้าที่ค่อนข้างลำบาก เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเหตุของต้นเพลิงอีกครั้ง
ต่อมาเช้ามืดวันที่ 3 ม.ค.เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์นำรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับไฟร้านทองที่เกิดเหตุ หลังมีไฟคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ นำตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กาฬสินธุ์ ตรวจสอบหาสาเหตุไฟไหม้อย่างละเอียด จากนั้นเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากปลั๊กไฟโต๊ะไหว้บรรพบุรุษ เพราะมีการเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา ทำให้ไฟลัดวงจรก่อนลุกลามไปชั้น 2 และชั้น 3 จุดที่พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย จากการตรวจสอบสภาพตึกไม่ได้รับความเสียหายมากนัก มีเพียงทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และทองรูปพรรณ แต่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศพนางสมพิศมีศักดิ์เป็นย่าของ น.ส.ตีรณา ที่เสียชีวิตในกองเพลิงญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดสว่างคงคา อ.เมืองกาฬสินธุ์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวและญาติพี่น้อง ส่วนนายวิชิตเจ้าของร้านยังนอนรักษาตัวอยู่ใน รพ.กาฬสินธุ์ มีแพทย์และพยาบาลเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด