พ่อฝ่ายชายที่สาวไทใหญ่อ้างถูกหลอกนำตัวมาทิ้งที่อุบลฯ ทั้งที่ท้องแล้วไปกับกะเทย ตอบโต้ชี้กุเรื่อง มาอยู่กับลูกชายแค่ 1 เดือน ก่อนหน้าลูกยังเป็นทหารเพิ่งปลดมา และไปทำงานกรุงเทพฯ ไม่ไปกับกะเทย
จากกรณีหญิงสาวอ้างตัวเป็นสาวชนเผ่าไทใหญ่ อยู่จังหวัดเชียงราย รู้จักหนุ่มอุบลราชธานี จึงตามมาอยู่กินด้วยนาน 5 ปี แต่ถูกผัวกับสาวประเภทสองหลอกนำตัวมาทิ้งในตัวจังหวัดอุบลราชธานี จึงตัดสินใจเดินเท้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ นั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (29 ธ.ค.2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังที่บ้านที่สาวไทใหญ่อ้างว่า ได้มาพักอาศัยอยู่ด้วยนาน 5 ปี ตั้งอยู่ในตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี พบนายสมใจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี และ นางบุญเบ็ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของนายหล่อย (นามสมมติ) อายุ 23 ปี แฟนหนุ่มที่นางสาวเมย์ เป็นบุคคลที่รวมหัวกับแฟนใหม่ที่เป็นสาวประเภทสอง นำตัวมาปล่อยทิ้งไว้กลางตัวเมืองอุบลราชธานี
นายสมใจ กล่าวว่า นางสาวเมย์ เป็นภรรยาของลูกชายจริง แต่เป็นได้แค่ 1 เดือนเท่านั้นส่วนเรื่องที่นางสาวเมย์เล่าเป็นตุเป็นตะนั้น ล้วนเป็นเรื่องโกหกที่มโนเอาเอง ไม่ใช่เรื่องจริง ทั้งเรื่องตั้งครรภ์ 4 เดือน ตนไม่ทราบ เพราะนางสาวเมย์เพิ่งมาอยู่กับลูกชายได้แค่เดือนเดียว เพราะเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายหล่อย ลูกชายยังเป็นทหารอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี และบอกเพียงมีแฟนที่คบหาคุยกันทางเฟซบุ๊ก แต่ชื่อแป้ง เป็นพี่ของ น.ส.เมย์ ก่อนปลดทหารลูกชายโทรศัพท์ให้ตนเองไปรับนางสาวเมย์ น้องของคนชื่อแป้งมาที่บ้าน เพราะต้องการมาดูสภาพความเป็นอยู่ ก่อนจะมาอยู่กินด้วย แต่เมื่อนางสาวเมย์มาอยู่ ก็กลับกลายเป็นว่ามาอยู่เลย แล้วก็มีสัมพันธ์กับลูกชาย แทนพี่สาวของตัวเองที่เป็นคนรัก
...
เมื่อเรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ ตนเองจึงขอเอกสารใช้ยืนยันตัวตนของนางสาวเมย์ เพื่อนำไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ เพราะเกรงว่าสาวรายนี้เป็นคนต่างด้าว แต่นางสาวเมย์บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงส่งตัวให้กลับไปบ้านตามที่อ้างว่าอยู่เชียงราย เพื่อนำเอกสารมายืนยันตัวตน แต่ไปแล้วก็กลับมา โดยไม่มีเอกสารมาด้วย ที่สงสัยมากที่สุด เพราะช่วงที่นางสาวเมย์มีอาการปวดท้อง ไปหาหมอที่อำเภอกลับบอกหมอว่า เป็นคนนครสวรรค์ และจากการตรวจสอบสิทธิ์การรักษาไม่พบนางสาวเมย์มีสิทธิ์การรักษา ของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งโรงพยาบาลแจ้งว่า หากไม่มีเอกสารมาแสดงตัว ก็จะต้องเสียเงินลักษณะนี้ตลอดไป
เมื่อเป็นเช่นนี้ตนเองจึงได้ให้นางสาวเมย์กลับไปเอาเอกสารมาแสดงอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้าหากไม่นำมาแสดงยืนยันตัวตนเองจะแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ จากนั้นนางสาวเมย์ก็หายออกไปจากบ้านโดยที่ไม่มีผู้ใดได้ขับไล่ออกไป รวมทั้งกรณีที่นางสาวเมย์อ้างว่า ถูกนายหล่อยและแฟนที่เป็นสาวประเภทสองนำไปทิ้งไว้ในตัวเมืองอุบลราชธานี นั้นไม่เป็นความจริง เพราะนายสมใจ ได้ส่งตัวนายหล่อยให้ไปทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ รวมทั้งนายหล่อยก็ไม่มีแฟนที่เป็นสาวประเภทสองแต่อย่างใดด้วย
ด้านนางสาววงเดือน คำแหง อายุ 42 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน กล่าวว่า ตัวเองไปสอบถามเอาเอกสารมาลงในระบบ อสม. เพื่อจะได้เป็นประวัติของบุคคล เวลาเจ็บป่วยไม่สบายและรายงานทางอำเภอตามระเบียบ แต่นางสาวเมย์ พยายามหลบหน้า ไม่พูดคุยกับตน เพราะกลัวถูกตนซักถามข้อมูล ทำให้ส่วนตัวรู้สึกสงสัยในตัวนางสาวเมย์ มีอะไรปกปิดตัวเองมาโดยตลอด และที่อ้างว่าตั้งท้อง 4 เดือนจะเป็นไปได้ยังไง เพราะตัวหญิงรายนี้เพิ่งมาอยู่กับนายหล่อยได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น.