พ่อวอนคู่กรณีเห็นใจ ลูกสาว 2 คนพี่น้อง จยย.ประสบอุบัติเหตถูกรถเก๋ง "ผอ.โรงเรียน" ชนบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ นอนอยู่บ้านช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องหยุดเรียน พ่อแม่ก็ต้องหยุดงานมาดูแล เผยทีแรกผอ.สัญญาจะให้ค่าทำขวัญ 5 หมื่น ต่อรองขอลดเหลือ 3 หมื่นแต่ก็ยังโยกโย้ อ้างทะเลาะกับเมีย

เวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 340 ม. 15 บ้านห้วยยางศรีวิไล ต.ดงเมืองแอม อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น บ้านของ นายบุญรวม ขอมอบกลาง อายุ 46 ปี และนางวิษา ลักษณะศรี อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา เป็นบิดา มารดาของลูกสาว 2 คน อายุ 17 ปี และ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.5 และ ม.1 โรงเรียนเขาสวนกวางวิทยานุกูล ซึ่งประสบอุบัติเหตุ ถูกรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน งต 8759 นครราชสีมา ชนกับรถจักรยานยนต์ที่ลูกสาวขับขี่กลับจากโรงเรียน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเทาดำ ทะเบียน 2 กด 4339 ขอนแก่น ที่บริเวณสามแยกบ้านนาค้อ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ มีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 โพสต์คลิปอุบัติเหตุ พร้อมข้อความว่า “ช่วยดูคลิปอุบัติเหตุนี้หน่อย ใครผิด...ขอคำแนะนำอยากขอปรึกษาหน่อยครับ เรื่องลูกถูกรถชนครับเรื่องมีอยู่ว่าลูกสาวสองคนคนเล็กเรียน ม.1 คนโตเรียน ม.5 เลิกเรียนจะกลับบ้านขับมอไซออกจากทางแยกเขามาทางตรงชนรถลูกสาวผม ดูคลิปแล้วเขาว่าลูกสาวผมผิด ลูกสาวผมสาหัสทั้งสองคนหยั่งงี้ผมจะเรียกร้องอะไรได้บ้างไหมครับ”

...

ที่บ้านหลังดังกล่าว พบลูกสาวของนายบุญรวมนอนอยู่บนเตียง โดยลูกสาวคนโตชื่อ น.ส.จุฑาทิพย์ นักเรียนชั้น ม.5 ได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างขวา ซึ่งแพทย์ผ่าตัดดามเหล็กให้ ยังไม่สามารถเดินและช่วยตัวเองได้ ในขณะที่ลูกสาวคนเล็ก ชื่อ ด.ญ.วริศรา นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเดียวกันกับพี่สาว ก็นอนอยู่บนที่นอน มีมารดาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และบาดเจ็บที่ขาขวา กรามหัก ยังไม่สามารถขยับกรามได้ มารดาต้องบดอาหารให้รับประทาน

นายบุญรวม ขอมอบกลาง อายุ 46 ปี บิดาของเด็กทั้งสอง และเป็นคนส่งคลิปพร้อมข้อมูลไปยังเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 กล่าวว่า กลุ้มใจ และสงสารลูก เพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ ลูกต้องขาดเรียน ไม่ได้ไปเรียนหนังสือทั้งสองคน โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็ก ในวันเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บ สลบไม่ได้สติ และแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจ จนรู้สึกตัวกลับคืนมา จากนั้นส่งไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ เป็นเวลา 8 วัน ส่วนลูกคนโต ก็อาการสาหัส ถูกส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ศรีนครินทร์ เช่นกัน แพทย์ได้ดามเหล็กที่ขาข้างขวาให้เพราะขาหัก รักษาตัวในรพ. 4 วันก็ออกจากรพ. ซึ่งหลังจากลูกออกจากรพ.แล้วก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ก็ต้องหยุดรับจ้างมาดูแลลูกสาวทั้งสองคน เพราะคนโตเดินไม่ได้ ลูกสาวคนเล็กก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

“หลังจากลูกสาวประสบอุบัติเหตุ ได้ลงไปดูจุดเกิดเหตุและไปพบกับตำรวจจนทราบว่า ลูกสาวประสบอุบัติเหตุที่สามแยกบ้านนาค้อ โดยลูกสาวขี่รถออกมาจากในซอย ขณะนั้นมีรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อฮอนด้า ที่วิ่งมาจากทางบ้านคำนางปุ่ม มุ่งหน้าออกไปทางถนนมิตรภาพ ชนรถจักรยานยนต์ของลูกสาวจนบาดเจ็บทั้งสองคน ซึ่งคนขับรถเก๋งทราบว่า เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาสวนกวาง พร้อมภรรยาก็มาเยี่ยมลูกสาวสองคนที่รพ.พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบว่าจะจ่ายเงินให้ครอบครัว 50,000 บาท แต่ยังไม่ให้ มอบเพียงค่าน้ำมันให้ 3,000 บาท ในขณะเดียวกันหลังจากลูกสาวออกจากรพ.คนขับรถเก๋งก็โทรมาแจ้งว่า ขอลดค่าทำขวัญเหลือ 30,000 บาท และทะเลาะกับภรรยา จึงไม่มีเงินมาจ่ายให้ ถ้าไม่อยากยุ่งอยาก ก็ขอให้รับเงินจำนวนนี้ด้วย”

นายบุญรวม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบาก เพราะตนกับภรรยาไม่สามารถออกไปรับจ้างได้ ทุกวันนี้ อยู่ได้ด้วยเงินที่ครูและเพื่อนของลูกสาวที่โรงเรียนมาเยี่ยม นำเงินสินน้ำใจมามอบให้ ถ้าไม่มีเงินที่ทางโรงเรียนช่วยเหลือมา ครอบครัวคงจะแย่ จึงไปพบตำรวจ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เขาสวนกวาง เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องอุบัติเหตุ ตำรวจได้ให้รายละเอียดไว้ว่า รถจักรยานยนต์คันที่ลูกสาวขี่ไปเรียนหนังสือนั้น พัง จึงส่งซ่อมที่ร้านซ้อมและยังไม่ทราบราคา ส่วนค่ารักษาพยาบาลลูกสาวนั้น ใช้เงินจาก พ.ร.บ.ของรถจักรยานยนต์ และใช้บัตรทอง โดยลูกสาวคนโตรักษาไป 68,000 บาท คนเล็ก 70,000 บาท หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ยังต้องพาลูกไปพบแพทย์ตามหมอนัด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก จึงอยากให้คู่กรณี มีมนุษยธรรมกับครอบครัวตน ช่วยเยียวยาบ้าง พนักงานสอบสวนแจ้งว่า เรื่องการเยียวยาคู่กรณีต้องคุยกันเอง จึงปรึกษากับภรรยาว่า ถ้าปล่อยไปนาน ปัญหาก็จะเพิ่มมากขึ้น ทำใจ ยอมรับเงิน 30,000 บาท จากคู่กรณี แต่จนถึงขณะนี้คู่กรณี ก็ยังไม่เอาเงินมาให้ อยากให้คู่กรณี แสดงความรับผิดชอบโดยเร็ว เพราะครอบครัวกำลังแย่ ไม่มีรายได้ แล้วยังต้องพาลูกไปหาหมอ.