งานศพหนุ่มวิศวกร กองช่าง ทต.นากลาง ที่เครียดลาโลกปมทุจริตในหน่วยงานมีญาติพี่น้อง และเพื่อน มข.มาร่วมงานบรรยากาศสุดเศร้า ด้าน แม่หนุ่มวิศวกรเชื่อลูกถูกกดดันเรื่องงาน วอนหน่วยงานสอบข้อเท็จจริง
กรณีนายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี วิศวกรโยธา สังกัดกองช่าง เทศบาลตำบลนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พบเป็นศพรมควันในรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว 4 ประตู ที่ริมบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีจดหมายลักษณะคล้ายกับพินัยกรรมอยู่ในรถ โดยญาติเชื่อว่าฆ่าตัวตายเพราะได้รับความกดดันจากหน่วยงาน ทำให้เครียดจนต้องยื่นใบลาออก ก่อนจะมาก่อเหตุฆ่าตัวตาย และมีผู้มาพบศพเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา และต่อมามีการเปิดเผยใจความในจดหมาย 3 หน้ากระดาษ เอ4 แผ่นแรก แฉกลโกงในที่ทำงานใจความสำคัญ คือ ผู้ตายเจอวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดีในเรื่องการทุจริต ถูกกดดันให้เซ็นรับงานจากผู้รับเหมาในโครงการ แต่ตัวเองไม่อยากตรวจรับงานที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากงานแต่ละงาน ผู้รับเหมาตัดราคามาต่ำๆ เพื่อให้ได้งาน แล้วก็ต้องจ่ายให้ผู้บริหารระดับสูงใน เทศบาลฯ เป็นค่างานที่ได้
...
นอกจากนี้ในจดหมายอีก 2 แผ่นเป็นการขอโทษพ่อแม่และคนใกล้ชิด บอกว่าเจอการทำงานที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เจอลูกจ้างเก่ากดดันให้เอาเงินค่าทดสอบวัสดุและค่าป้ายประชาสัมพันธ์โครงการมาให้มันผมมาบรรจุใหม่ 1 มิ.ย. 65 กับให้ผู้ควบคุมงานตั้งแต่เดือนแรก ยังไม่รู้ระเบียบเท่าไร แถมยังมาเจอการทุจริต จนเป็นระบบวัฒนธรรม โดยมีการระบุเหตุการณ์ผู้รับจ้างขอเทปูนเย็น ผมจึงตกลงว่าเท แต่ผมก็ออกไปดูจนเทเสร็จ เช้ามาเหมือนว่ามีเรื่องร้องเรียนหรืออะไร แต่ทุกคนทำเป็นแสร้งว่าไม่มีอะไร ได้แต่พูดเหน็บเรา ทั้งที่รู้ว่าผมจะโดนอะไร ผมก็แค่คนคนหนึ่งที่ต้องการเรียนรู้ระบบราชการท้องถิ่น แต่สุดท้าย รู้ว่าผมปรับตัวเข้ากับระบบทุจริต จนเป็นนิสัยไม่ได้
ผมลาออกวันที่ 31 ตุลาคม มีผล 1 ธันวาคม แต่ยังมีงานในมือ คือควบคุมงานค้างอยู่ 4 ตัว โดยระบุเส้นมีปัญหา ถนนร่อนและแตกร้าว กรรมการมีมติให้ ปาดคอนกรีตออก 50 ซม.ในการแก้ปัญหาตรงรอยแตก ซึ่งมันไม่ถูกต้อง และยังไปรับเงินมาจากผู้รับจ้าง เพื่อเคลียร์กรรมการตรวจรับ และ ช่างเหมือนเป็นเครื่องมือสำหรับทำเงินให้กับผู้บริหาร ไม่เฉพาะนักการเมือง ข้าราชการตัวใหญ่ เช่น ผอ.กองช่างก็ตัวดี คอยแต่จะหาเศษหาเลยจากโครงการ กรรมชั่วของพวกเขา เล่ายังไงก็ไม่หมด ขอให้พวกมันทุกคน ได้รับผลของการที่มันโกง ทุจริต หาเศษหาเลยจากหน้าที่ ร่างถ้ายังอยู่ดี บริจาคให้กายวิภาคศาสตร์ มข.
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายวุฒิพงษ์ ใจยศ นายอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู แต่ได้รับแจ้งว่ายังไม่ทราบเรื่อง ขออนุญาตตรวจสอบข้อมูลก่อน
ต่อมาได้สัมภาษณ์ นายทวีศักดิ์ จันทะศรี นายกเทศมนตรีตำบลนากลาง กล่าวว่า ทราบเรื่องการเสียชีวิตของวิศวกรหนุ่มรายนี้แล้ว แต่เมื่อถามถึงประเด็นที่ผู้ตายเขียนจดหมายลาตาย พร้อมบอกสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องในสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ที่มีปัญหาการทุจริต รวมถึงมีการพาดพิงถึงตัวนายกและ ผอ.ในเทศบาล นายทวีศักดิ์ ทำเสียงเหมือนตกใจ และอึกอักอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานมี 2 ส่วน คือ ที่มีการประมูลงานกับการตกลงราคา และยอมรับว่ารู้จักกับบริษัทรับเหมางานที่ผู้ตายระบุในจดหมายจริง แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด และ หากมีเวลาจะไปร่วมงานศพด้วย
โดยวานนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านของผู้ตาย ที่บ้านหนองหว้า ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาศพนายภาณุเมศวร์ โดยมีญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 คน มาเป็นตัวแทนแสดงความเสียใจ และมอบพวงหรีดและเงิน โดยมีนางปุ วาสโสหา อายุ 54 ปี แม่นายภาณุเมศวร์เป็นผู้รับ
...
นางปุ วาสโสหา แม่ผู้ตาย กล่าวว่า ครอบครัวมีอาชีพทำนา มีลูก 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนเล็ก ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะลูกเรียนเก่ง ขยัน นิสัยดี เป็นคนตรง เคยทำงานเป็นลูกจ้างที่สำนักงานขนส่งอุดรธานี สาขาอำเภอเพ็ญ ซึ่งลูกก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร ต่อมาลูกสอบรับราชการเป็นวิศวกรโยธา สำนักกองช่าง เทศบาลตำบลนากลาง จ.หนองบัวลำภูได้ และพึ่งรับราชการได้เพียง 6 เดือน เหตุผลที่เลือกรับราชการ เพราะลูกต้องการให้พ่อแม่มีสิทธิรักษาพยาบาล ซึ่งพ่อแม่และญาติต่างก็ภาคภูมิใจในตัวลูกมาก เพราะลูกคือเสาหลักของครอบครัว
แม่ของหนุ่มวิศวกร กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาที่ทำงาน ลูกจะกลับมาเยี่ยมบ้านเดือนละ 1 ครั้ง เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด เก็บกด แต่ก็บ่นให้ฟังว่า เป็นงานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง รู้แค่ว่าลูกได้ยื่นใบลาออกแล้ว และมีผลในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และบ่ายวันที่ 24 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ลูกได้ส่งพัสดุกลับมาบ้าน ข้างในมีเอกสารสำคัญ แหวนทอง และมีจดหมายแนบมากับพัสดุ ระบุว่าหากได้รับของแล้ว ให้ช่วยไปเก็บของที่เหลืออยู่ที่บ้านพัก อ.นากลาง กลับมาให้ด้วย และระบุว่ากุญแจห้องซ่อนไว้ที่ไหน และขอโทษที่ทำให้แม่ผิดหวัง พอได้อ่านก็เริ่มใจไม่ดี จึงโทรกลับไปหาที่ สนง.เทศบาล ซึ่งปลายสายแจ้งว่าลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. แล้ว
...
นางปุ กล่าวด้วยว่า จึงได้ช่วยกันเช็กพิกัดจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือลูก จนพบพิกัดว่าอยู่ที่บึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนทราบข่าวร้ายว่า ลูกชายรมควันเสียชีวิตในรถ ครอบครัวของตนเสียใจมาก เพราะลูกเป็นคนตรง เป็นคนซื่อสัตย์ ซึ่งในจดหมายที่ลูกเขียน ตำรวจเก็บเอาไว้ส่งพิสูจน์หลักฐาน แต่ญาติได้อ่านข้อความเกี่ยวกับการทำงาน และมีข้อความว่า "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" จึงไม่กล้าอ่านต่อ เพราะมันจุกอก สังคมนี้คนดีอยู่ไม่ได้ พวกโกหกปลิ้นปล้อนตอแหลอยู่ได้สบาย อยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ช่วยตรวจสอบเทศบาลตำบลนากลาง ด้วยว่าเพราะเหตุใดลูกตนจึงอยู่ไม่ได้ จนต้องฆ่าตัวตาย ซึ่งจะทำพิธีฌาปนกิจวันที่ 28 พ.ย. นี้.