ทหาร-ตร.บึงกาฬ ลาดตระเวนพบกระสอบต้องสงสัย 5 ใบถูกวางอยู่ในป่ายูคาลิปตัส เข้าตรวจสอบพบเป็นยาไอซ์ 200 กิโล มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท จึงยึดและเก็บหลักฐาน DNA เพื่อเร่งหาแก๊งค้ายาเหล่านี้มาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 65 เวลา 10.00 น. ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.วรยุทธ คำสี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2107 ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงตำรวจ ทหาร แถลงข่าวผลการตรวจยึดยาไอซ์ ที่บรรจุอยู่ในกระสอบห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 5 กระสอบ รวมยาไอซ์ทั้งหมด 200 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บุ่งคล้า ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ภายในพื้นที่บ้านสมพร ม.8 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงสนธิกำลังกับทหารพรานที่ 2107 ฝ่ายปกครองอำเภอบุ่งคล้า ออกดักซุ่มและลาดตระเวน จนกระทั่งพบกระสอบสีดำต้องสงสัย วางอยู่ในสวนป่ายูคาลิปตัส จึงเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นยาไอซ์จำนวนมาก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมา พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกับ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ นำกำลังออกตรวจสอบ และให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้าตรวจหา DNA ที่ติดอยู่กับถุงดำที่ซุกซ่อนยาไอซ์ จำนวน 5 กระสอบ และตรวจยึดนำของกลางมาตรวจสอบสารเสพติด ที่ สภ.บุ่งคล้า ก่อนจะนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
...

พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า เบื้องต้นได้เก็บหลักฐาน DNA ที่กระสอบและรถเข็น 2 ล้อที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนออกหาตัวผู้ต้องสงสัย มาตรวจ DNA เพื่อเปรียบเทียบกัน เร่งหาตัวผู้กระทำมาลงโทษให้ได้ ซึ่งตอนนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว กำลังให้ชุดสืบสวนไปนำตัวมาตรวจ DNA ส่วนยาไอซ์ที่บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย ข้างในเป็นถุงกระดาษสีเขียวมีอักษรภาษาอังกฤษ คำว่า Very good สีน้ำเงินประทับอยู่ข้างถุง อีกข้างหนึ่งมีรูปดาวสีแดง 5 ดวง มีอักษรจีนและอักษรภาษาอังกฤษคำว่า QING SHAN จำนวน 150 ห่อ และเป็นถุงพลาสติกใสข้างในเป็นถุงกระดาษสีเหลืองมีรูปดาวสีแดง 5 ดวง มีอักษรจีนและอักษรภาษาอังกฤษคำว่า GUANYINWANG จำนวน 50 ห่อ รวมยาไอซ์ทั้งหมด จำนวน 200 ห่อ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

ของกลางยาไอซ์และรถเข็นสองล้อ สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน จะได้นำส่งพนักงานสอบสวน สก.บุ่งคล้า เพื่อดำเนินการสอบสวนสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.