น้ำท่วมร้อยเอ็ดอ่วม 15 อำเภอ พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่ ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านแซงแหลม ต.แสนชาติ พร้อมไปติดตามสถานการณ์น้ำ กำชับท้องถิ่นเร่งฟื้นฟูและเยียวยาชาวบ้านหลังน้ำลด

จากกรณีเกิดฝนตกหนักเนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่าน และอิทธิพลของพายุ "โนรู" ประกอบกับเขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มการระบายน้ำ เป็น 54 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ระหว่างวันที่ 12-16 ตุลาคม 2565 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ ลุ่มต่ำริมแม่น้ำชี บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 300,000 ไร่

...

ช่วงบ่ายวานนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านดินดำ ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่าบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมอยู่ก่อนหน้านี้ ได้มีปริมาณท่วมสูงขึ้นถึง 10 ซม. ทำให้น้ำท่วมบ้านสูง 1-2 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยว ต้องใช้เรือติดเครื่องยนต์สัญจรเข้า-ออกเท่านั้น ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และยารักษาโรค เข้าไปมอบให้ชาวบ้านที่ยังมีบางส่วนที่พักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ส่วนบ้านชั้นเดียวและบ้านที่อยู่ติดแม่น้ำชี ก็ต้องอพยพขึ้นมานอนบนถนนคันพนัง

เวลาต่อมา นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ร.ต.อ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่บ้านแซงแหลม ตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชนที่มาร่วมกันนำกระสอบทรายและตอกไม้ค้ำเพื่อเสริมแนวพนังกั้นน้ำตามจุดเสี่ยงต่างๆ ตลอดแนวฝั่งลำน้ำชีในพื้นที่ชุมชน

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง อำเภอเชียงขวัญ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนร้อยเอ็ด ซึ่งระดับน้ำด้านหน้าเขื่อนปัจจุบันอยู่ที่ 134.34 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01 ม. สูงกว่าระดับเก็บกัก 4.34 ม. ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนปัจจุบันอยู่ที่ 134.34 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01 ม. ปัจจุบันมีการระบายน้ำของเขื่อนร้อยเอ็ดลงสู่ท้ายน้ำในอัตรา 1,263.74 ลบ.ม./วินาที หรือคิดเป็นวันละ 109.19 ล้าน ลบ.ม. แนวโน้มสถานการณ์น้ำด้านหน้าเขื่อน หลังจากนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และระดับน้ำด้านท้ายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เขื่อนร้อยเอ็ดได้ทำการเปิดบานระบาย เพื่อรักษาระบบนิเวศและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภค ในช่วงฤดูฝน พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

...

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จำนวน 15 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจังหาร ธวัชบุรี ทุ่งเขาหลวง เสลภูมิ เชียงขวัญ โพธิ์ชัย พนมไพร อาจสามารถ เกษตรวิสัย โพนทราย ปทุมรัตต์ สุวรรณภูมิ โพนทองหนองฮี และอำเภอเมืองร้อยเอ็ด รวม 100 ตำบล 826 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 306,567.75 ไร่ ด้านปศุสัตว์ 18,082 ตัว ด้านประมง 554.75 ไร่ ด้านที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบ จำนวน 10 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 5,844 ครัวเรือน

ในส่วนการให้ความช่วยเหลือ จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับการสนับสนุนกำลังพล และทรัพยากรต่างๆ จากหน่วยงานราชการ มูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศล เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการเดินทาง ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ตลอดจนอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย และลงพื้นที่มอบถุงยังชีพและดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำอยู่ในระดับทรงตัว พร้อมได้เน้นย้ำ เจ้าหน้าที่ ดูแลตรวจตราแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชม. และเสริมแนวป้องกันเพิ่มในจุดที่เปราะบาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการพังทลายของคันดิน โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมมาเป็นเวลานาน หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด สายด่วน 1784

...

ขณะที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีการประชุมการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อวางแผน เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ เร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ยืนยันจังหวัดร้อยเอ็ดพร้อมที่จะดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่.