ไร้ปาฏิหาริย์ เจอแล้วศพที่ 3 เหตุเรือเล็กล่มกลางเขื่อนมูลบน ที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ครอบครัวทำใจไม่ได้ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ อย่าประมาทในการเดินเรือ ต้องมีเสื้อชูชีพติดตัว

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเรือเล็กล่มกลางเขื่อนมูลบน ที่ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้สูญหายภายในเขื่อน 3 ชีวิต ประกอบด้วย นายอธิบดี หย่นครบุรี อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประธานนักเรียนโรงเรียนจระเข้หินสังฆกิจวิทยา นางฤทธิพร หย่นครบุรี 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 280 ม.1 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มารดาของนายอธิบดี และ นางเกรียงแก้ว หาสูงเนิน 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.1 ต.ครบุรีใต้ ซึ่งเป็นป้าของนายอธิบดีฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสามได้นำเรือนั่งข้ามเขื่อน เพื่อไปตัดไม้ไผ่มาทำแคร่นั่งร้านที่หัก แต่คาดว่าเนื่องจากเป็นเรือเล็กขนาดความกว้างเพียงประมาณ 85 เซนติเมตรและกว้างเพียง 2.7 เมตร และด้วยน้ำหนักของทั้งสาม รวมถึงในช่วงวันเกิดเหตุมีฝนตกและลมกรรโชกแรงตลอดทั้งวัน จึงอาจเป็นเหตุให้เรือล่มและทำให้สูญหายทั้งหมด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 07.20 น. วันนี้ (28 กันยายน 2565) ทางทีมค้นหาภายใต้การนำของนายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี พร้อมด้วย ร.ต.ท.สุวิทย์ นันทา รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.ครบุรี บูรณาการกำลังคนในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งอาสาสมัครมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ กว่า 20 นาย พร้อมเรือ 4 ลำ เจ็ตสกี อีก 2 ลำ ออกค้นหาบริเวณผิวน้ำ และพบร่างของนายอธิบดี หย่นครบุรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และประธานนักเรียน ร.ร.จระเข้หินสังฆกิจวิทยา แล้ว

...

รวมถึงเมื่อเวลา 10.20 น. ทีมค้นหาก็พบร่างของนางฤทธิพร หย่นครบุรี มารดาของนายอธิบดี เป็นศพที่ 3 โดยร่างของนายอธิบดี พบอยู่ห่างจากจุดที่พบศพแรกเมื่อวานนี้ประมาณ 5-6 เมตร ส่วนมารดาของนายอธิบดี พบห่างจากจุดเดิมประมาณกิโลเมตรเศษ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างทั้งสองส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลบุรี ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ทางด้านนายอาทิตย์ หย่นครบุรี อายุ 53 ปี บิดาของนายอธิบดีฯ ผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องเสียทั้งภรรยาและบุตรชาย เปิดใจว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของครอบครัว หากถามว่าทำใจได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่ายังยากที่จะทำใจ เพราะทั้งสองเป็นคนสำคัญอย่างมากในชีวิต แต่ก็ต้องก้มหน้าสู้กับมันต่อไป ทั้งนี้อยากให้ทุกคนดูเหตุการณ์นี้ไว้เป็นตัวอย่าง ในกรณีที่ต้องเดินเรือไกลๆ ไม่ควรประมาท ต้องมีเสื้อชูชีพติดตัว หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จะพอใช้รอน้ำพยุงร่างกายกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสูญเสียเช่นเดียวกับครอบครัวของตนเองในเหตุการณ์นี้.