คดีสุดวุ่น แม่ค้าที่บุรีรัมย์ขี่ จยย.ไปขายขนม ถูกสัตว์ชนล้มกลิ้งหน้าแตกยับเย็บ 9 เข็ม จำได้ชัดว่าเป็น "แพะ" ตัวผู้กระโดดพุ่งชน ด้านเจ้าของแพะเป็นผู้ใหญ่บ้านหญิง โต้ อาจเป็นสุนัขก็ได้ที่ชนรถ เพราะแพะในคอกยังอยู่ดี ไม่มีตัวไหนบาดเจ็บ ตำรวจปวดหัวต้องให้ พฐ.มาตรวจหาหลักฐานขนแพะอาจติดอยู่ที่รถ  

วันที่ 25 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน บ้านหนองไทร หมู่ 8 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่าเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังไปเป็นคู่กรณีกับผู้ใหญ่บ้าน และเป็นถึงลูกสะใภ้นายก  อบต.แห่งหนึ่งใน อ.ลำปลายมาศ

ไปตรวจสอบ พบ นางสุภาพ ประจันกลาง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 327 หมู่ 8 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม และพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำแดง ทะเบียน 1กล 5431 บุรีรัมย์ ได้รับความเสียหายจอดไว้ในบ้าน

นางสุภาพ เล่าว่า ตนมีอาชีพเร่ขายขนมตามหมู่บ้าน โดยใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขี่ไปขายของทุกวัน เมื่อวันที่ 21 ก.ย. เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนขี่รถออกจากบ้านจะไปเร่ขายขนมในเมืองบุรีรัมย์ เมื่อขี่มาถึงถนนสายบ้านหนองม่วง-บ้านหนองบัว ก่อนถึงบ้านหนองบัว ม.9 ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ มองแต่ไกลเห็นแพะกินยอดต้นกระถินอยู่บริเวณขอบทางทั้งสองฝั่งถนน ด้านขวามือเป็นแพะตัวผู้ตัวใหญ่ 1 ตัว ส่วนด้านซ้ายมือเป็นแพะตัวเมียตัวเล็ก จำนวน 3 ตัว ตนจึงได้ชะลอความเร็วเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อขี่มาถึงจุดที่แพะกินต้นกระถินอยู่นั้น ได้มีแพะตัวผู้ตัวใหญ่กระโดดจากขอบทางเข้ามาชนรถจักรยานยนต์ของตนอย่างจัง ทำให้เสียหลักล้ม ตัวกับรถได้ไถลไปกับพื้น และถูกรถจักรยานยนต์ทับบริเวณหน้าท้อง ลุกขึ้นเองไม่ได้

...

ต่อมา มีคนที่ผ่านมาช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.) หนองน้ำขุ่น ที่อยู่ใกล้เคียง ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปลายมาศ หมอต้องเย็บแผลที่หน้าผากถึง 9 เข็ม ยังมีรอยถลอกและฟกซ้ำบริเวณ ใบหน้า ข้อศอกขวา หัวเข่าซ้าย และสะโพกข้างขวา

ต่อมาได้มีเจ้าของแพะ มารับว่าเป็นเจ้าของแพะ เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ทะเมนชัย และเป็นลูกสะใภ้นายก อบต.ทะเมนชัย แต่ลูกสะใภ้นายกปฏิเสธว่าแพะไม่ได้ไปชนรถ “น่าจะเป็นสุนัขมากกว่า” จึงไปเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ณภัทร สุทธิธนากูล สารวัตร(สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ ซึ่งตำรวจได้เรียกคู่กรณีไปไกล่เกลี่ยหาข้อยุติ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เพราะฝ่ายเจ้าของแพะยืนยันว่าไม่ใช่แพะของเขาที่ไปชนรถ และอ้างว่าไม่มีหลักฐานที่จะไปกล่าวหาได้

"ตอนนี้ได้จ่ายค่ารักษาไปแล้ว 872 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ได้รับความเสีย หายกระจกด้านซ้ายแตก ไฟเลี้ยวขวาแตก กันลมขวาแตก เครื่องแตก ฯลฯ ช่างประเมินค่าซ่อมเป็นเงินจำนวน 7,685 บาท แต่ยังไม่มีใครรับผิดชอบ จึงมาร้องสื่อเพื่อขอความเป็นธรรม"

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายคู่กรณี คือ นางมาลี อินทรกำแหง อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านหนองบัว ต.ทะเมนชัย และเป็นลูกสะใภ้นายก อบต.ทะเมนชัย ซึ่งเป็นเจ้าของแพะ กล่าวว่าช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน ทราบเรื่องหลังเกิดเหตุวันต่อมา ว่าแพะของตนไปชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ การกล่าวหาของนางสุภาพ ที่ว่าแพะของตนไปชนรถเขานั้น ส่วนตัวยังไม่เห็นหลักฐาน หรือมีพยานคนใดออกมาบอกว่าเป็นแพะของตน ซึ่งอาจจะเป็นสุนัขก็ได้ เพราะมีรูปร่างคล้ายกัน ตอนนี้ตำรวจพื้นที่ได้ประสานกับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อมาเก็บหลักฐานตามตัวรถ เช่น ขนที่ติดกับตัวรถคันเกิดเหตุ หากพิสูจน์ได้ว่าขนที่ติดกับรถเป็นขนแพะของตนในคอก ตนก็พร้อมจะรับผิดชอบ สาเหตุที่ตนปฏิเสธ เพราะแพะในคอกทั้ง 7 ตัว ไม่มีตัวใดได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับปฏิกิริยาของฝั่งผู้เสียหาย ส่วนตัวมองว่าไม่ค่อยดี จึงให้กระบวนการทางกฎหมายเข้ามาตัดสิน