นำ้จากโคราชไหลลงมาสมทบลำสะแทดล้นเอ่อไหลท่วมพื้นที่โดยรอบโรงเรียนบ้านบุ่งเบา อ.พุทไธสง บุรีรัมย์ 30-50 ซม. ครู และจนท.เร่งย้ายอุปกรณ์การเรียน และข้าวของต่างๆ ขึ้นที่สูง ผอ.สั่งปิดเรียน 5 วัน

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยังคงน่าห่วง หลังมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมวลน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมาได้ไหลบ่าลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำสะแทดซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ไหลผ่านตัว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณน้ำหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ล่าสุดพบว่ามวลน้ำได้เอ่อทะลักเข้าท่วมโรงเรียนบ้านบุ่งเบา ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง ที่เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น น้ำได้เอ่อเข้าท่วมโดยรอบอาคารเรียน ถนนเข้า-ออก และสนามกีฬา โดยน้ำมีระดับความสูงเฉลี่ย 30-50 เซนติเมตร ซึ่งคณะครู นักการภารโรง ต้องเร่งช่วยกันขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงสื่อการเรียนทั้งสมุดหนังสือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และตู้เก็บเอกสารที่สำคัญของทางโรงเรียนขึ้นที่สูงกันอย่างโกลาหล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเสียหายจากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น

...

ขณะที่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้สั่งประกาศปิดเรียนเป็นกรณีพิเศษเบื้องต้นเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย. 65 เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะเกรงว่าหากมีฝนตกลงมาอีกหรือมวลน้ำเหนือไหลมาสมทบเพิ่มเติม อาจจะทำให้ปริมาณน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนสูงขึ้น และหากระดับน้ำยังไม่ลดลงก็จะพิจารณาประกาศปิดเพิ่ม จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน

ด้าน นางพูนทรัพย์ เจริญศรี ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.บ้านบุ่งเบา กล่าวว่า หลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำเหนือไหลสมทบลงลำสะแทดหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้เอ่อทะลักเข้าท่วมรอบบริเวณโรงเรียน โดยเฉพาะห้องเรียนชั้น ม.1-ม.3 น้ำทะลักเข้าท่วมภายในห้องเรียนทั้ง 4 ห้อง รวมถึงอาคารเรียนเด็กอนุบาลและชั้นประถมด้วย ถึงแม้จะนำกระสอบทรายปิดกั้นจุดเสี่ยง และก่อนหน้านี้ได้รับงบมาทำการก่อสร้างคันดินแล้ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันให้น้ำทะลักเข้าท่วมได้

ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.บ้านบุ่งเบา กล่าวต่อว่า ทางผู้บริหารจึงประกาศปิดเรียนเป็นกรณีพิเศษ 5 วัน เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ขณะนี้ทางโรงเรียนก็ทำได้แค่เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังในโรงเรียนออกให้ระดับน้ำลดลงโดยเร็ว แต่หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก หรือมวลน้ำเหนือไหลมาสมทบเพิ่มมากกว่านี้ ก็อาจจะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมสูงมากขึ้น โดยทั้งครูเวรและนักการภารโรงได้ผลัดเปลี่ยนเวรกันเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 และทาง อบต.บุ่งเบา ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ และป้องกันไม่ให้น้ำท่วมสูงขึ้นกว่านี้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเมื่อปี 2553 โรงเรียนบ้านบุ่งเบา ได้เคยถูกน้ำทะลักเข้าท่วมสูงถึง 1.20 เมตร จนอาคารเรียน โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์การเรียนการสอนจมน้ำเสียหายจำนวนมาก.