กลายเป็นหนังคนละม้วน คดีพระวัดป่าที่ด่านซ้าย จ.เลย แจ้งถูกโจรอ้วนผอมบุกจี้ชิงเงินและทอง ถูกฟันกลางหลังแต่ไม่เข้า ถูกจุดไฟเผา พบเป็นรูปเดียวกับเณรที่เคยกุเรื่องฝันเห็นพระพุทธรูปจมอยู่ในลำน้ำสาน อ.ภูเรือ ยังตัดต่อภาพตัวเองคู่กับหลวงปู่ลี แอบอ้างเป็นพระอุปัฏฐาก ล่าสุดวัดประกาศลงเฟซฯ ไม่ใช่พระลูกวัดและไม่เคยจำพรรษาที่วัดมาก่อน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 65 มีคนร้าย 2 คน อ้วนผอม เข้าไปชิงทรัพย์พระอนาวิน อนาวิโล อายุ 31 ปี ผู้ดูแลวัดป่าภูผาทั่ง บ้านนาข่า หมู่ 5 ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย โดยพระอ้างว่า คนร้าย ใช้ขวดน้ำผึ้งตีหัว 1 ครั้ง กระทืบหลัง 2 ครั้ง ใช้มีดพร้าฟันที่หลัง 2 ครั้ง และจุดไฟเผาสบงที่สวมใส่จนลุกไหม้หวังฆ่าให้ตาย จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ชาวบ้านได้ช่วยกันนำพระอนาวิน ผู้ดูแลวัดส่ง รพ.ด่านซ้าย
ต่อมา พ.ต.ท.วัฒนา พาจันลา สว.(สอบสวน) สภ.ด่านซ้าย ได้เรียกบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่ม และนำตัวพระอนาวิน ไปส่งตรวจร่างกายหาร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายอย่างละเอียด ที่ รพ.ด่านซ้าย หลังถูกทำร้ายแต่ไม่มีบาดแผลหรือรอยช้ำแต่อย่างใด ล่าสุดเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าภูผาทั่ง พบว่าวันนี้พระอนาวินไม่ได้ออกบิณฑบาตเหมือนทุกวัน มีหลวงตาอนันย์ ประเสริฐศรี อายุ 79 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยติ้ว ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ จ.เลย พร้อมพระอีก 2 รูป และญาติโยมจาก อ.ท่าลี่ จ.เลย ร่วม 10 คน มาพูดคุยและสอบอาการพระนาวิน ถึงเหตุการณ์ที่สองโจรอ้วนผอมเข้ามาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย
...
พระอนาวิน เล่าว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น และมีภาพที่อาตมาไปถ่ายรูปคู่กับหลวงปู่ลี เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสานนั้น ยอมรับว่าเป็นภาพตัดต่อจริง โดยเมื่อเดือนที่แล้วมีญาติโยมเป็นชายหญิง สองผัวเมียมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ขับรถเก๋งคันเก่ามาที่วัด และขอรูปอาตมาไป จากนั้นก็นำรูปที่ตัดต่อไปยืนอยู่ข้างหลวงปู่ลีมามอบให้ เห็นครั้งแรกก็รับไม่ได้ แต่ต้องจำใจรับไว้ และเอามาแขวนไว้ที่หน้ากุฏิ จนเมื่อเช้าสองคนผัวเมียได้ขับรถเก๋งมาขอรับภาพคืน โดยให้เหตุผลว่าเห็นข่าวออกไปแล้วกลัวว่าอาตมาจะเสียหาย จึงขอคืนโดยไม่ได้ขอเบอร์ไว้ และอยากจะฝากขอโทษไปยังลูกศิษย์วัดป่าภูผาแดง เพื่อขอโทษและไม่มีเจตนาที่จะตัดต่อภาพแต่อย่างใด
ส่วนที่มีการพูดถึงว่าอาตมาเป็นคนเดียวกับสามเณร ที่ฝันเห็นพระพุทธรูปเก่าและแก้วมรกตที่จมอยู่ลำน้ำสาน ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ จ.เลย เมื่อปี พ.ศ.2558 จนมีชาวบ้านนับหมื่นคนมาร่วมพิธีงมพระพุทธรูปนั้นยอมรับว่าเป็นอาตมา ซึ่งตอนนั้นได้บวชอยู่วัดบ้านห้วยติ้ว ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ ได้ 2-3 พรรษา จากนั้นขอสึกไปอยู่กับแม่ที่ จ.เลย และกลับมาบวชอีกครั้งที่วัดเลยหลง แล้วไปจำพรรษาอีกหลายวัด จนมาอยู่ที่วัดป่าภูผาทั่ง บ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นพระอนาวิน ได้เอาหลักฐานใบสุทธิมาให้ดูและพาไปดูร่องรอยที่สองโจรอ้วนผอมเข้ามาชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายที่กุฏิ ยืนยันพร้อมพิสูจน์ความจริง
ขณะที่นายบุญเทศ ฤทธิ์ศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ชาวบ้านส่วนหนึ่งเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น อีกส่วนไม่เชื่อ อยู่ที่ทางตำรวจจะสอบสวนหาหลักฐานว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง เป็นหน้าที่ของตำรวจ จากนี้ไปจะมีการตรวจสอบที่มาที่ไปของพระอนาวิน ว่ามาอยู่ที่วัดอย่างถูกต้องหรือไม่
ด้านหลวงตาอนันย์ ประเสริญศรี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยติ้ว กล่าวว่า หลังทราบข่าวก็เดินทางมาสอบถามและให้กำลังใจ รู้จักพระอนาวินตอนที่บวชเณรอยู่วัดห้วยติ้ว ซึ่งตอนนั้นอาตมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ก่อนจะสึกออกไปและกลับมาบวชพระอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น แค่มารับฟังเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.วัฒนา พาจันลา เจ้าของคดี เปิดเผย ว่าเมื่อวานได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำเพิ่ม และนำตัวพระอนาวิน ไปตรวจบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้ายที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย โดยการเอกซเรย์อย่างละเอียดเพื่อมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะเดียวกันวัดป่าภูผาแดง ได้ออกประกาศลงในเฟซบุ๊กของทางวัดว่า มีผู้แอบอ้างเป็นพระอุปัฏฐากองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร โดยสืบเนื่องจากคลิปวิดีโอข่าวเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 โดยบุคคลในข่าวคือพระอนาวิน อนาวิโล พระผู้ดูแลวัดป่าภูผาทั่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้อ้างว่าเป็นพระอุปัฏฐากองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร อยู่ 1-2 ปีนั้น ทางวัดป่าภูผาแดงขอแจ้งให้ทราบว่า พระอนาวิน อนาวิโล ไม่ใช่พระลูกวัดและไม่เคยจำพรรษาที่วัดป่าภูผาแดงมาก่อน ดังนั้น พระอนาวินจึงไม่เคยได้อุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ลีตามที่แอบอ้าง อีกทั้งรูปถ่ายคู่กับองค์หลวงปู่ลีที่ติดหน้ากุฏินั้นก็เป็นภาพตัดต่อ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ทางวัดป่าภูผาแดงจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน วัดป่าภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี วันที่ 4 กันยายน 2565 เวลา 23.20 น.
...