พฤติการณ์อันอุกอาจของ นายอานนท์ อ่อนสาคร หรือ “เปา กระนวน” หนุ่มจาก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ค้ายาบ้า ยิงตำรวจ ชิงรถหลบหนี
จากวันที่ก่อเหตุจนถึงขณะนี้ ผ่านพ้นมากว่า 1 สัปดาห์กับการไล่ล่าของตำรวจร่วมกันหลายหน่วยงานทั้งตำรวจภูธรขอนแก่น ภาค 4 ส่วนกลาง ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้
ด้วยวัยเพียง 27 ปี จากเด็กหนุ่มบ้าน ๆ เสพยามั่วยากับเพื่อน หันมาเป็น “เด็กเดินยาส่งยา” แล้วถีบตัวเองขึ้นสู่ “เอเย่นต์” เป็นผู้ค้าเต็มตัว ทั้งยังรับทวงหนี้ยาบ้าให้พรรคพวก ไปไหนมีสมุนรายรอบ "เครือข่าย" ของ เปา กระนวน ในวงการนี้จึงไม่ธรรมดา
บ่ายแก่ๆ ของวันที่ 23 สิงหาคม 2565 เปา กระนวน ซึ่งเป็นเจ้าของหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติดฯ ถูกจับความเคลื่อนไหวได้ หลังพาเพื่อน 5 คน เข้ามาเช่าโรงแรมในย่านชุมชนกังสดาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ไม่ทราบจุดประสงค์ที่แน่นอนว่า เปา กระนวน เข้ามาในเมืองทำไม แต่คาดว่าน่าจะมาทวงหนี้ค่ายาฯ
ตำรวจบุกจับ แต่คว้าน้ำเหลว ตัวการสำคัญหนีรอดไปได้ เปา กระนวน และพวก ใช้ปืนยิงเปิดทาง กระสุนถูก ด.ต.สุวิทย์ สุขสาย ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปคม. ที่ขาขวาได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวป้ายแดง ทะเบียน ร-9999 กรุงเทพมหานคร (ทะเบียนปลอม) ไปจอดทิ้งไว้ในป่า แล้วเปา กระนวน ใช้ปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ของพนักงานส่งพัสดุเอกชนขี่หลบหนี มุ่งหน้ากลับบ้านที่อ.กระนวน
ปฏิบัติการไล่ล่าเริ่มขึ้นในทันที ไม่ใช่เฉพาะเป็นผู้ต้องหายาเสพติดคนสำคัญ แต่เพราะบังอาจต่อสู้ขัดขืนใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับมีการประสานตำรวจกองปราบปราม เข้ามาช่วยตำรวจในพื้นที่ กดดันให้ผู้ต้องหาออกมามอบตัว
พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 และโฆษก ภ.4 กล่าวว่า นายอานนท์ ผันตัวเองจากวัยรุ่นติดยาเสพติด มาเป็นเด็กเดินยา ต่อมาก็เป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติดเอง ส่งยาบ้าในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมีวัยรุ่นที่ติดยาเสพติดเป็นลูกน้อง รับทวงหนี้ค่ายาบ้าให้เอเย่นต์ใหญ่ ใช้อาวุธปืนข่มขู่เครือข่ายที่ติดค้างค่ายาเสพติด ถือว่านายอานนท์เป็นบุคคลอันตราย ที่มีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา ส่วนการหลบหนีของนายอานนท์ มีเพื่อนและเครือข่ายยาเสพติดพาหนีไป
...
"จากพฤติกรรมการก่อเหตุล่าสุดที่โรงแรมและจี้ชิงทรัพย์ไปทำให้รู้ว่า นายอานนท์ไม่น่าจะยอมจำนน หรือยอมถูกจับง่ายๆ ซึ่งในกรณีการเข้าจับกุมเมื่อเจอตัว และถูกนายอานนท์ยิงปืนใส่ตำรวจ ต่อสู้ขัดขวาง พยายามหนีเอาตัวรอด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน อาจถึงขั้นจับตายก็เป็นได้"
เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ที่บอกกับผู้สื่อข่าว ภายหลังขอนุมัติหมายจับ นายอานนท์ ในข้อหา พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานฯ
"สรุปว่าขณะนี้ นายอานนท์ อ่อนสาคร นอกจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นด้วย ทั้งยังมีหมายจับของเพื่อนอีก 2 คน จึงฝากถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ต้องหาตามหมายจับว่า ผู้ที่ถูกออกหมายจับนั้น มีอาวุธปืนติดตัว เป็นบุคคลอันตราย ขอให้เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยสามารถเข้ามอบตัวในทุกโรงพัก เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวและเข้าจับกุม แล้วมีการยิงปืนต่อสู้ขัดขวางอีก ตำรวจก็ต้องป้องกันตัวเช่นกัน ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาดถึงเสียชีวิตได้ จึงขอให้ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 3 คน และเพื่อนชายหญิงอีก 3 คน มามอบตัว มาพบตำรวจโดยเร็ว"
มองอีกด้าน การขัดขืนต่อสู้กับเจ้าพนักงาน ต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ยอมถูกจับกุม ไม่ยอมจำนนโดยง่าย จะมาจากการที่เครือข่ายขบวนการยาเสพติดเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ มีการประสานเพื่อช่วยเหลือกัน มีผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ คอยปกป้องคุ้มครอง หากไม่ถูกกดดันถึงที่สุดก็จะไม่ยอมมอบตัว
โดยเฉพาะรายของ เปา กระนวน ที่เป็นทั้งผู้ค้าและแนวหน้าพกปืนออกไปทวงหนี้ จึงเป็นที่รักและหวงแหนของพรรคพวกพี่น้องในวงการ งานนี้ จะจับเป็น หรือจับตาย ไม่ง่ายแน่นอน