ตำรวจรู้ตัวแล้ว 2 ศพ ชายหญิงนิรนามถูกฆ่า เปลือยอำมหิต ปืนยิงหัวแล้วขุดหลุมฝังดินโบก ปูนทับ หมกไว้ในป่าชุมชนพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา หลังสืบจากซิลิโคนเสริมเต้านมจนพบเบาะแส ผลิตในเกาหลีใต้ ก่อนถูกส่งขายเวียดนาม ตรวจสอบลายนิ้วมือจากสถานทูตฯ เหยื่อฝ่ายหญิงเป็นสาวญวน ส่วนฝ่ายชายเป็นชาว ไนจีเรีย คาดหลบหนีเข้าเมืองมาตามช่องทางธรรมชาติ เร่งคลี่ปมมรณะไปขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องใดกับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่

จากเหตุสะเทือนขวัญ ชาวบ้านออกหาเห็ดป่าไปพบหลุมศพชายหญิงนิรนามเปลือยกาย ถูกจ่อยิงศีรษะฝังดินแล้วใช้ปูนซีเมนต์โบกทับ ภายในป่าชุมชนบ้านปอพราน หมู่ 1 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ห่างทางหลวง 224 โชคชัย-ครบุรี ประมาณ 500 เมตร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ค. เหยื่อฆาตกรรมโหดเป็นชายชาวต่างชาติ อายุราว 40-50 ปี สูงราว 175 ซม. ผิวคล้ำ ผมหยิก และหญิงชาวเอเชีย ผมยาว ผิวขาว อายุประมาณ 30 ปี กลางหลังบริเวณเอวมีรอยสักรูปมงกุฎประดับอัญมณี ส่วนที่แขนและข้อมือขวามีรอยสักพระพิฆเนศ หัวนก และดอกไม้ ตำรวจได้นำรอยสักและซิลิโคนเสริมอกเหยื่อสาวเป็นเบาะแสสืบหาตัวผู้ตายว่าเป็นใครมาจากไหน เพื่อเป็นแนวทางคลี่คลายคดีปริศนาครั้งนี้

ความคืบหน้าวันที่ 4 ส.ค. ที่ห้องประชุม กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี มี พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน นำชุดสืบสวน บก.สส.ภ.3 กก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา และ สภ.โชคชัย เข้ารายงานผลการสืบสวน พร้อมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจท่องเที่ยว และชุดสืบสวนกองปราบปราม เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

...

รายงานข่าวแจ้งว่า จากหลักฐานที่พบคือซิลิโคนในศพหญิงผู้เสียชีวิต ชุดสืบสวนประสานไปประเทศผู้ผลิตซิลิโคนยี่ห้อหนึ่งให้ตรวจสอบลอตผลิตหมายเลข Lot #:19060170 ขนาด 340 ซีซี หลังมีข้อมูลซิลิโคนยี่ห้อนี้ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ เป็นที่นิยมใช้ตามคลินิกเสริมความงามและโรงพยาบาลในประเทศย่านเอเชียอาคเนย์ กระทั่งได้คำตอบว่าซิลิโคนลอตผลิตดังกล่าวถูกส่งไปจำหน่ายที่ประเทศเวียดนาม

จากนั้นชุดสืบสวนได้ประสานผู้เชี่ยวชาญสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำเครื่องมือพิเศษมาเก็บลายนิ้วมือของหญิงผู้เสียชีวิต และขอความร่วมมือสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ช่วยตรวจสอบลายนิ้วมือจนทราบว่าลายนิ้วมือตรงกับ น.ส.เหวียน ถิ วาน อายุ 33 ปี สัญชาติเวียดนาม ต่อมาได้ข้อมูลว่า ก่อนเสียชีวิต น.ส.เหวียน ถิ วาน คบหากับชายผิวสีคนหนึ่ง เมื่อตรวจสอบลายนิ้วมือของชายที่เสียชีวิต ปรากฏว่าลายนิ้วมือตรงกับนายอนาบอน ชกา เฮน อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรีย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในที่ประชุมได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทุกชุด โดยเฉพาะชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เร่งตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใด ผ่านช่องทางไหน พักอาศัยอยู่พื้นที่ใดก่อนเสียชีวิต เพื่อเป็นเบาะแสในการคลี่คลายคดี ขณะเดียวกันได้สั่งให้นำพยานหลักฐานทั้งหมดมาวิเคราะห์ เช่น หัวกระสุนปืน 9 มม. ที่ผ่าออกจากศพทั้งสองและปลอกกระสุนปืนที่พบในจุดเกิดเหตุ ส่งไปตรวจสอบเปรียบเทียบว่าเคยก่อคดีในพื้นที่ใดมาบ้างหรือไม่

รวมทั้งแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ พยานบุคคลที่เป็นชาวบ้านและเป็นผู้เห็นรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอดใกล้ทางเข้าหลุมศพอย่างมีพิรุธ และรถกระบะ 4 ประตู สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มีชาย 2 คนขับเข้ามาวนเวียนใกล้จุดเกิดเหตุก่อนพบศพ นอกจากนี้ให้เร่งเช็กกล้องวงจรปิดในเส้นทางเข้าออกพื้นที่ทุกตัว เพื่อหาเบาะแสรถต้องสงสัยทั้ง 2 คันว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไปตามด่านต่างๆทั่วประเทศ ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของ น.ส.เหวียน ถิ วาน ชาวเวียดนาม และนาย อนาบอน ชกา เฮน ชาวไนจีเรีย คาดว่าทั้ง 2 คน น่าจะลักลอบเข้าเมืองมาตามช่องทางธรรมชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างแสวงหาข้อมูลว่า หลังจากเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน พักอาศัยอยู่ที่ไหน และเข้าไปพัวพันกับขบวนการผิดกฎหมายกลุ่มใดบ้างหรือไม่ เพราะอาจเป็นชนวนเหตุความขัดแย้งหรือขัดผลประโยชน์ จนนำไปสู่การถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมดังกล่าว