- ครบ 7 ปี กำเนิดประติมากรรม "พญาศรีสัตตนาคราช" รูปปั้นพญานาค 7 เศียร ริมน้ำโขง จากความเชื่อสู่แลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่ กระตุ้นการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ จ.นครพนม
ความเชื่อเรื่อง "พญานาค" สำหรับชาวพุทธนั้น ถือเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานกันมาเนิ่นนานตั้งแต่พุทธประวัติจนถึงปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะกล่าวว่าเรื่องพญานาค ถือเป็นส่วนหนึ่งสำหรับวิถีชีวิตคนไทย ที่เกิดขึ้นจากความเชื่อและความศรัทธา โดยเฉพาะผู้คนทางภาคอีสานที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ต่างมีเชื่อกันว่าพญานาคเป็นสัตว์กึ่งเทพและมีอิทธิฤทธิ์มาก รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งสายน้ำและความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าแม่น้ำโขงเกิดจากการแถตัวของพญานาค และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองบาดาลของเหล่าพญานาค ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ามีการสร้างรูปปั้นพญานาคอยู่ริมแม่น้ำโขงหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น ที่ จ.นครพนม
จากความเชื่อ สู่ประติมากรรมแห่งศรัทธา กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่
...
ถ้าพูดถึง จ.นครพนม สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่ทุกคนต้องนึกถึงเลยก็คือ พระธาตุพนม ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด และด้วยความที่ จ.นครพนม เป็นจังหวัดอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ความเชื่อดั้งเดิมเรื่องพญานาคของชาวบ้านแถบนี้ จึงฝังรากหยั่งลึกกลายเป็นแรงศรัทธา จนนำไปสู่การผลักดันสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัด อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์เมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับองค์พญานาค ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และคอยดูแลปกปักรักษาแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึงองค์พระธาตุพนม ภายหลังมีการวางแผนออกแบบก่อสร้างมานานเกือบ 5 ปีเต็ม จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์และนำมาประดิษฐานเมื่อปี 2559 โดยใช้ชื่อว่า "องค์พญาศรีสัตตนาคราช"
ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัด
องค์พญาศรีสัตตนาคราช ถูกก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะทองเหลือง เป็นองค์พญานาคขดตัวชูเศียรพ่นน้ำ จำนวน 7 เศียร มีความสูงตั้งแต่ฐานลำตัว ประมาณ 9 เมตร ขดลำตัวกว้างประมาณ 6 เมตร และตั้งบนแท่นประดิษฐานสูง ประมาณ 5 เมตร มีน้ำหนักรวมประมาณ 9 ตัน โดยจะประดิษฐานหันหน้าไปทางน้ำโขง พ่นน้ำทั้ง 7 เศียรลงสู่แม่น้ำโขง ใช้งบประมาณสร้างเฉพาะองค์พญานาค ประมาณ 9 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่มีความสวยงามโดดเด่น เชื่อมกับเส้นทาง 3 ที่สุดของ จ.นครพนม ดังนี้ 1."สวยที่สุด" คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน 2. "งามที่สุด" จะเป็นตัวเมืองที่มีความสวยงามเรื่องวิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งโขง รวมถึงองค์พญานาคแลนด์มาร์ก และ 3. "ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" คือ องค์พระธาตุพนม ที่จะเป็นจุดขาย ประชาสัมพันธ์ กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว ดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจให้มาเที่ยวชม ทำให้ปัจจุบัน จ.นครพนม มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
ดึงดูด นทท.เข้าจังหวัดเพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีหลัง
ทั้งนี้ จากข้อมูลเคยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว จ.นครพนม เฉลี่ยปีละ 4-5 แสนคน เพิ่มเป็นปีละเกือบ 2 ล้านคน ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมานี้ รวมถึงปัจจุบันถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างไม่ขาดสาย ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวของ จ.นครพนม เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ในช่วง "วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี" จ.นครพนม จะร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดงานประเพณีสำคัญขึ้น คือ งานบวงสรวงบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช นอกเหนือจากงานประเพณีไหลเรือไฟออกพรรษาประจำปี รวมถึงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2565 ส่วนไฮไลต์ของการจัดกิจกรรมนั้น ทุกวันจะมีการจัดรำบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะมีสาวงามจากชนเผ่าต่างๆ รวม 8 ชนเผ่า ทั้ง 12 อำเภอของ จ.นครพนม เข้ารวมวันละกว่า 500 คน ในชุดพื้นเมืองประจำชนเผ่า เพื่อแสดงออกถึงขนบธรรมเนียม และประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่เป็นเอกลักษณ์ของ จ.นครพนม ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมถึงความสวยงาม อลังการ และความอ่อนช้อยงดงาม
...
อีกทั้งเป็นการเชิญชวนประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว หลังมีการปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมกราบไหว้ขอพรเพื่อแสดงออกถึงความเคารพและศรัทธาต่อองค์พญานาค ซึ่งตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมาหลังการก่อสร้าง มีประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เคารพศรัทธา เดินทางมาท่องเที่ยวและชื่นชมกันอย่างมากมาย
ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าขายภายในจังหวัดคึกคักมากขึ้น
โดย นายพิเชฏฐ์ หลั่งทรัพย์ ประธานชมรมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพุทธศิลป์และการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าชาวลุ่มน้ำโขงมีความเชื่อและศรัทธา เกี่ยวกับองค์พญานาคมายาวนาน เชื่อว่าเป็นผู้ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนม ตามตำนานความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับองค์พระธาตุพนมมาแต่อดีต ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เช่น พระสุนทรธรรมากร หรือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีศิษยานุศิษย์เคารพศรัทธา และได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง ได้เคยทำนายไว้ก่อนที่จะละสังขาร เมื่อปี 2546 ว่า จะมีการอัญเชิญองค์พญานาค พญาศรีสัตตนาคราช พญานาค 1 ใน 9 ขององค์นาคาธิบดีแห่งสองฝั่งโขง ทั้งไทยและลาวที่เป็นพญานาคที่มีบุญบารมี คู่กับ องค์พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช ผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม จะมาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับ จ.นครพนม จนกระทั่งมีการก่อสร้างแลนด์มาร์กศักดิ์สิทธิ์ขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับ จ.นครพนม ภายในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ ทั้งทำให้เศรษฐกิจการค้าขายภายในจังหวัดคึกคัก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลดีต่อประชาชนในพื้นที่ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร เกิดขึ้นจำนวนมาก จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของภาคอีสาน อีกทั้งยังมีองค์พระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิด 8 พระธาตุ ใครได้มีโอกาสมากราบไหว้ขอพรถือเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิต
...
ผู้เขียน : หงเหมิน
กราฟิก : Chonticha Pinijrob
ที่มาข้อมูล : จ.นครพนม