รถสองแถวบุรีรัมย์ เดือดร้อนหนัก หลังโดนพิษโควิดเล่นงานผู้โดยสารหดหาย แถมเจอน้ำมันแพงซ้ำเติม สู้ต่อไม่ไหว หยุดวิ่งไปทำอาชีพอื่นเกือบหมดแล้ว ปัจจุบันเหลือแค่ 3 คัน ตาวัย 72 เจ้าของรถ เผยที่ยังวิ่งต่อเพราะชาวบ้านขอร้อง ไม่มีรถไปหาหมอ และซื้อของในตัวเมือง โอดหากน้ำมันแพงขึ้นอีกก็คงต้องเลิกวิ่งเหมือนกัน

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถสองแถวรับจ้างที่วิ่งให้บริการตามหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เคยมีเกือบ 20 คัน ได้ทยอยหยุดวิ่งให้บริการไปแล้วมากกว่า 10 คัน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 3 คันเท่านั้น เนื่องจากประสบปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ผู้โดยสารที่เคยใช้บริการหดหาย อีกทั้งช่วงนี้ก็ประสบปัญหาราคาน้ำมันแพงขึ้นต่อเนื่องซ้ำเติมอีก ซึ่งหลายคนพยายามประคับประคองด้วยการลดจำนวนเที่ยววิ่งเหลือไปกลับเที่ยวเดียว โดยรอให้มีผู้โดยสารหลายคนก่อน ถึงจะออกรถ แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอกับภาระค่าครองชีพ และต้นทุนค่าน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องหยุดวิ่งไปทำอาชีพอื่น หรือหารับจ้างแทน เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะรายได้จากการวิ่งรถสองแถวไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่าย

นายเจน โรมรัมย์ อายุ 72 ปี หนึ่งในผู้ที่ประกอบอาชีพขับรถสองแถวที่ยังคงวิ่งให้บริการอยู่ บอกว่า ได้รับผลกระทบตั้งแต่ประสบปัญหาโควิดระบาด ทำให้ผู้โดยสารใช้บริการลดลง อีกทั้งช่วงนี้ก็มาเจอราคาน้ำมันแพงซ้ำเติมอีก จากปกติจะเติมน้ำมันเพียงวันละ 100-200 บาท แต่ทุกวันนี้ต้องเติมถึง 300 บาท แต่จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการกลับน้อยลงกว่าเดิม บางวันก็ 5 คน 3 คน และ 2 คน ซึ่งรายได้ไม่พอค่าน้ำมันด้วยซ้ำ แต่ที่ยังวิ่งให้บริการอยู่ เพราะว่าชาวบ้านที่ใช้บริการเป็นประจำขอร้อง เกรงว่าหากหยุดวิ่งจะไม่มีรถไปหาหมอที่ รพ. และไม่มีรถไปซื้อของตลาดในตัวเมืองมาขายตามหมู่บ้าน ซึ่งหากจะวิ่งต่อก็จะพูดคุยกับผู้โดยสารอีกครั้ง เพื่อขอปรับราคาค่าโดยสาร ให้สอดคล้องกับราคาน้ำมัน แต่หากปรับราคาไม่ได้และน้ำมันยังแพงขึ้นมากกว่านี้อีก ก็คงต้องหยุดวิ่งเหมือนกับคนอื่นๆ เพราะหากวิ่งแล้วขาดทุนก็คงไปต่อไม่ไหว.

...