โร่แจ้งจับอีกคดี หมอปลาอ้างพระมั่วสีกา สรุปป่วย ญาติกะเทยดูแล

“หมอปลา” อ่วมวิบากกรรมซัดกระหน่ำ ตำรวจตั้งทีมรวบรวมหลักฐานบุกที่พักสงฆ์ หลวงปู่แสง “อนุชา” เดินหน้าฟันอาญา พศ.เด้งรับลูกตรวจสอบพฤติกรรมทีมหมอปลาที่เข้าไปทุกวัด “ศรีสุวรรณ” ยื่นร้อง ป.ป.ช. ผอ.สำนักพุทธฯ จ.ยโสธร และนายอำเภอป่าติ้วละเลยปล่อยให้แสดงความก้าวร้าว ขณะที่ศิษยานุศิษย์แห่ขอวัตถุมงคลหลวงปู่ เจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบตามกำหนดเวลาเพื่อความเป็นระเบียบ ที่ จ.นครปฐม ทนายความแจ้งอีกรายหมอปลาบุกกุฏิพระอ้างมั่วสีกา สุดท้ายเป็นกะเทยและเป็นญาติกับพระ

วิบากกรรมซัด “หมอปลา” นายจีรพันธ์ เพชรขาว และทีมงานอย่างต่อเนื่อง หลังนายรัตน์ภิโพธิ ทวีกันย์ หรือวิทย์ มหาชน กรรมการสมาคมชาวยโสธร พร้อมด้วยทนายความ แจ้งความดำเนินคดีหมอปลาพร้อมพวก หลังบุกที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ตรวจสอบหลวงปู่แสง ญาณวโร ลวนลามหญิง พร้อมถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน แต่ถูกกระแสสังคมตีกลับรวม 4 ข้อกล่าวหาประกอบด้วย นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เป็นการใส่ความคณะสงฆ์ให้เสื่อมเสียก่อให้เกิดความแตกแยก อั้งยี่ซ่องโจร และร่วมกันสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ขณะที่หมอปลายังเก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหน

หลวงปู่เป็นห่วงญาติโยม

ความคืบหน้าช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ค. บรรยากาศที่วัดป่าอรัญญาวิเวก ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ ประชาชนเดินทางมาเพื่อกราบสักการะหลวงปู่แสงกันอย่างต่อเนื่อง หลวงปู่แสงโปรดญาติโยมที่นำภัตตาหารเช้ามาถวายลงมาฉันภัตตาหารเช้าที่ศาลาด้านล่างข้างกุฏิ และไต่ถามญาติโยมถึงสภาพดินฟ้าอากาศว่า บ้านญาติโยมฝนตกไหม มีน้ำพอทำนาหรือยัง หลังจากฉันเสร็จหลวงปู่ขึ้นไปพักบนกุฏิยังมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย ขณะที่คณะกรรมการแจ้งชาวบ้านว่า ก่อนหน้านี้กำหนดเวลาเข้าพบหลวงปู่แสงในเวลา 13.00-15.00 น. ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชนให้มาตามเวลา เพื่อให้หลวงปู่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

จัดระเบียบเข้าสักการะ

นายทวีป บุตรโพธิ์ ผวจ.อำนาจเจริญ มอบหมายให้นายกองเอกฤทธิ์สรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.อำนาจเจริญ จัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย วัดป่าอรัญญาวิเวก สนธิกำลังร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. เพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ต่อมานายธนูศิลป์ ไชยสิริ รอง ผวจ.อำนาจเจริญ พร้อมด้วยนายฤทธิ์สรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ เดินทางเข้าพบพระครูโสภณธรรมสโรช ก้องเกียรติ จัตวิโร เจ้าอาวาสวัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าอรัญญาวิเวก เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการบริหารจัดการเวลาเข้ากราบหลวงปู่ เพื่อไม่ให้ เกิดความวุ่นวาย

ลูกศิษย์แห่ขอวัตถุมงคลแน่นวัด

ต่อมาเวลา 13.30 น. ศิษยานุศิษย์เข้ากราบไหว้สักการะหลวงปู่แสงจำนวนมาก หลวงปู่มีเมตตาลงมารับพุทธศาสนิกชนที่ศาลาข้างกุฏิ พร้อมแจกวัตถุมงคลให้กับสาธุชนที่มากราบสักการะประมาณ 30 นาที หลวงปู่เริ่มมีอาการเหนื่อย พระอุปัฏฐากพยุงหลวงปู่นอนพักที่ศาลา ส่วนลูกศิษย์ที่นั่งรอคิวเข้าพบหลวงปู่ยังไม่ยอมกลับเพราะหวังว่าจะมีโอกาสกราบสักการะเพื่อเป็นมงคลในชีวิต

ตำรวจตั้งทีมทำคดีหมอปลา

ส่วนกรณีสมาคมชาวยโสธรแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดำเนินคดีกับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลาพร้อมพวก รวมทั้งหมด 4 ข้อหา ในข้อหาสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และอั้งยี่ซ่องโจร ที่ สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ด้าน พ.ต.อ.ธวัธชัย สร้อยสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าติ้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ออกหมายเรียกบุคคลใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและรัดกุม ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วย

“ศรีสุวรรณ” ยื่นร้อง ป.ป.ช.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนนนทบุรี 1 อ.เมืองนนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อนายปกครอง สุวรรณดารา ผอ.กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1 ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวน สอบสวนเพื่อเอาผิดกับ ผอ.สำนักพุทธฯ จ.ยโสธร และนายอำเภอป่าติ้ว จ.ยโสธร นายศรีสุวรรณกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ค. “หมอปลา” กับพวกพาทีมสื่อมวลชนบุกไปที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม เพื่อกล่าวหาหลวงปู่ อ้างว่าจับหน้าอกผู้หญิงพร้อมนำคลิปภาพและเสียงที่จัดทำขึ้นในลักษณะล่อให้กระทำความผิด อันเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามมาตรา 179 มาเป็นพยานในการกล่าวหาดังกล่าว และใช้กิริยาวาจาและท่าทางที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นการเคารพพระอริยสงฆ์ในพุทธศาสนา เป็นเหตุให้เกิดเป็นกระแสไม่พอใจของศิษยานุศิษย์และประชาชน ข้อเท็จจริงหลวงปู่แสงชราภาพอายุนับ 100 ปีแล้ว และมีอาการป่วยอัลไซเมอร์ ไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักที่จะเป็นไปตามการกล่าวหาได้

เอาผิดนายอำเภอ และ ผอ.พุทธฯ

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า การบุกไปสำนักสงฆ์ดังกล่าว มีนายอำเภอป่าติ้ว ผอ.สำนักพุทธศาสนา ยโสธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมคณะไปด้วย บุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมต้องเข้าใจกฎ ระเบียบ และขั้นตอน วิธีการในการปฏิบัติต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่ดี แต่กลับปล่อยให้หมอปลาและพวกแสดงพฤติกรรมในลักษณะข่มขืนใจหลวงปู่แสง ให้ยอมรับว่ากระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด อันมีลักษณะความผิดตามมาตรา 309 และยังอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 (1) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และฐานอั้งยี่-ซ่องโจร นายอำเภอป่าติ้ว และ ผอ.พุทธศาสนา จ.ยโสธร ร่วมเดินทางไปกับทีมหมอปลาปล่อยให้มีพฤติการณ์ข่มขืนใจ จาบจ้วง และการแสดงกริยาวาจาท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อหลวงปู่แสงให้ยอมรับผิดตามการกล่าวหา ถือว่ามีส่วนช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้หมอปลาและคณะกระทำความผิด ตนมาร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวน และเอาผิดผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน และผู้ที่เกี่ยวข้องในโทษขั้นสูงสุด นายศรีสุวรรณกล่าว

“บิ๊กตู่” ขออย่าทำสงฆ์เสียหาย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมพวก กระทำการลบหลู่ใส่ความจนทำให้เกิดความเสียหายกับพระสงฆ์
ชั้นผู้ใหญ่ว่า สั่งการไปแล้วผ่านนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปติดตามและกำชับเรื่องเหล่านี้ เพราะเรื่องการปกครองสงฆ์มีระเบียบของพระสงฆ์อยู่เช่นเดียวกัน เป็นการบริหารของเจ้าคณะเขตและเจ้าคณะจังหวัด เรื่องนี้ต้องเข้าไปดูแลด้วย สิ่งสำคัญคือคนของเราหรือประชาชน อย่าไปทำให้ท่านเสียหาย แต่ถ้าหากท่านทำเสียหายของท่านเองต้องช่วยกันแจ้งมา เพื่อจะเข้าไปตรวจสอบ และนำเข้าสู่กระบวนการมีมหาเถรสมาคม (มส.) ดูแลตรงนี้อยู่แล้ว พระมีการปกครองของพระสงฆ์เช่นเดียวกัน เมื่อถามว่าคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาฯเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับให้มีโทษอาญาทั้งพระสงฆ์และสีกาที่ร่วมประพฤติผิด พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขากำลังทำเรื่องนี้กันอยู่ เท่าที่ถามมาขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ

“อนุชา” ติงไม่ต้องพึ่งใคร

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างฆราวาสกับพระสงฆ์ว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ดำเนินการในส่วนที่จำเป็น มีคำสั่งให้ พศ.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ต้นที่เกิดปัญหาขึ้นมา แต่ไม่ได้ให้ข่าวออกไป การผิดพระวินัย ทั้งปาราชิกหรือสิ่งต่างๆ พระพุทธเจ้าทรงเห็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ศาสนาพุทธมีมา 2,500 ปี คงไม่ต้องไปพึ่งใครเพียงคนใดคนหนึ่งที่มาบอกว่าจะมาบริหารจัดการองค์กรพุทธ เรามีพระสงฆ์ที่เป็นตัวแทนขององค์พระพุทธเจ้าดูแลมาโดยตลอดและอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ คงไม่ต้องไปพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่บอกว่าจะมาทำเพื่อศาสนา คิดว่าการกระทำบางอย่างมันเหมือนดี แต่อีกสิ่งหนึ่งทำให้ผู้คนมองผ้าเหลือง มองศาสนาไปอีกอย่างหนึ่ง คิดว่าท่านทำถูกแล้วหรือ ระยะยาวทำไม่ถูกแน่นอน เพราะมีจิตใจที่ไม่ปกติแน่นอน

เดินหน้าฟันอาญา “หมอปลา”

เมื่อถามว่า พศ.ถูกมองว่ายังไม่เข้มแข็งพอ นายอนุชาตอบว่า ไม่ใช่ พศ.ไม่เข้มแข็ง แต่ที่ พศ.ทำอะไรจำเป็นต้องออกมาบอกหรือ มีหลายเรื่องมากที่ทำอยู่ในสารบบและทำมาตลอด เราจำเป็นต้องพูดหรือ เมื่อถามว่าจะดำเนินการกับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา อย่างไรบ้าง เพื่อให้เป็นตัวอย่างไม่ให้เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก นายอนุชาตอบว่า ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย อะไรที่ยอมไม่ได้เป็นอาญาแผ่นดินต้องดำเนินการตามที่นักกฎหมายกล่าวไว้ พศ.ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) เข้าไปดูแลพระสงฆ์และศาสนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะการกำกับดูแลพระตามลำดับชั้น อยู่ระหว่างจะตั้งโทษในส่วนที่จะเกิดขึ้นแต่ละลำดับชั้นลงไป การดูแลของพระใต้การปกครองยืนยันไม่ใช่ว่า พศ.จะนิ่งเฉย หลายอย่างได้ทำไปแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางครั้งความเชื่อความศรัทธายังคงมีอยู่ในสังคม บางครั้งใครไม่เชื่อไม่ศรัทธาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ความเชื่อความศรัทธาที่ยังคงมีมาจากอดีตเป็นคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมาตั้งแต่อดีตกาล ยกเว้นคนอวดอุตริเท่านั้น จะไม่ปล่อยให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่บอกว่าจะเข้ามาบริหารจัดการพุทธศาสนาไม่ถูก ส่วนกรณีการชี้แจงเรื่องต่างๆบางครั้งต้องเข้าใจในโลกแห่งการสื่อสาร ไม่อยากเห็นความแตกแยกทางความคิดที่มีมากกว่าเดิม อย่างตนเป็นฆราวาสพูดมากไปเท่ากับฆราวาสไปวิเคราะห์วิจารณ์เสียเอง มันไม่ถูกต้อง บางสิ่งบางอย่างต้องให้ปรากฏเรื่องความเชื่อและความศรัทธา

แก้ ก.ม.ฟันพระ-สีกามั่วกาม

เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมาธิการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาฯเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับให้มีโทษอาญาทั้งพระสงฆ์และสีกาที่ร่วมประพฤติผิด นายอนุชาตอบว่า ต้องพูดคุยกันในวงกว้าง ไม่อยากให้ลงลึกลงไปเกี่ยวกับศาสนา ไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับคณะ กมธ. แต่ต้องมีการพูดคุยในวงกว้าง ไม่ใช่คิดว่าจะแก้ไขแล้วทำทันที เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าพอเกิดเรื่องแล้วต้องตัดสินใจทันทีทันใดเหมือนอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดเหตุการณ์กราดยิงกันทุกปีอย่างไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะในโรงเรียนต่างๆ เขายังไม่เคยเปลี่ยน พ.ร.บ.อาวุธปืนเลย เขาจะไม่ยอมให้ใครคนใดคนหนึ่งมาเปลี่ยนจุดยืนประเทศ บางครั้งต้องมีจุดยืนและความเข้มแข็ง บางครั้งเองผมต้องอดทนอดกลั้น ไม่เป็นไร ใครว่าใครกล่าว ต้องอดทนอดกลั้น เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งเมื่อพูดออกไปแล้วกลายเป็นประเด็นเรื่องศาสนา เป็นฆราวาสคนหนึ่งที่ไม่อยากเห็นศาสนาของเราที่เป็นเสาหลักสั่นคลอน ยอมรับว่าบางครั้งผมเกือบจะเหลืออดหลายครั้ง รับรองเรื่องนี้อยู่ในใจสุดๆเลย

พศ.สั่งเชือดหมอปลา

ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.พศ. ประชุมผู้บริหารเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับคณะของ “หมอปลา” ที่บุกเข้าไปที่พักสงฆ์ป่าดงสว่างธรรม จ.ยโสธร ตามที่นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีสั่งการหลังการประชุม นายสิทธา มูลหงษ์ โฆษก พศ. กล่าวว่า นายสิปป์บวรสั่งการให้นิติกรตรวจสอบพฤติกรรมของหมอปลาที่เข้าไปทุกวัด เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับหมอปลาให้เร็วที่สุด เบื้องต้นเข้าข่ายการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และหมิ่นประมาทโดยใช้ถ้อยคำทำให้ผู้อื่นเสียหาย นอกจากนี้ พศ.ยังเตรียมดำเนินคดีกับอีกพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมประพฤติตนไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัยอีก 8 วัด ในหลายพื้นที่ตามที่มีร้องเรียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

โดนอีกรายบุกกุฏิอ้างมั่วสีกา

ด้านนายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร อายุ 54 ปี ทนายความกองทัพธรรม ในฐานะนายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เดินทางมาพบ พ.ต.ท.นิพนธ์ ก่อเกียรตระกูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อแจ้งความกล่าวโทษนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา กับพวก ในข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ภายหลังบุกรุกเข้าไปในกุฏิพระวิธี เทพมติ วัดห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 7 เม.ย. กล่าวหาว่า พระวิธีอยู่กับผู้หญิงเป็นความเท็จ และนำคลิปไปเผยแพร่ การกระทำของหมอปลาทำ ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิ ไม่มีอำนาจ และเข้าไปถึงที่พักของพระภิกษุ เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ชายแต่งกายในลักษณะหญิงเป็นลูกพี่ลูกน้องพระวิธี เข้ามาช่วยทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูนานกว่า 7 ปีมาแล้ว ไม่เคยนอนค้างในกุฏิ สาเหตุเพราะพระป่วยมีโรครุมเร้าหลายโรค และยังเป็นโรคภูมิแพ้ทำงานไม่สะดวก