ผวจ.อุดรฯ มาตรวจหลุมขุดวัตถุโบราณที่ "บ้านท่าเสียว" หลังมีการปิดพื้นที่ เพื่อตรวจสอบละเอียด โดยชุมชนโบราณริมน้ำ กรมศิลปากรคาดอายุอารยธรรมที่พบเก่ากว่าบ้านเชียง ระหว่างยุคหินเก่าสู่ยุคหินใหม่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ค. 2565 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เดินทางมายังสถานที่ “ขุดค้นโบราณวัตถุเบื้องต้น” ของสำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น บริเวณพื้นที่เตรียมสร้างปั๊มน้ำมัน และอู่ซ่อมรถ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 2022 หมู่ 7 บ้านท่าเสียว ต.สร้างคอม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี พบกับนายดุสิต ทุมมากรณ์ ผอ.กลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น หัวหน้าคณะทีมขุดค้น โดยมีนายสกนธ์ กรกฎ นายอำเภอสร้างคอม พ.ต.อ.กฤติเดช ปทุมมาวัฒนานนท์ ผกก.สภ.สร้างคอม ร่วมอำนวยการติดตาม
...
นายสกนธ์ กรกฎ นายอำเภอสร้างคอม แนะนำนายธนกฤต ศรีวงษ์รัตน์ อายุ 54 ปี เจ้าของที่ดินพื้นที่ราว 6 ไร่ ได้เข้ามาลงทุนปรับพื้นที่สร้างปั๊มน้ำมัน ขณะใช้เครื่องจักรหนัก ปรับพื้นที่ให้ลงมาเท่ากับถนน หรือลดต่ำลงมาราว 1 เมตร พบวัตถุโบราณคล้ายสมัยบ้านเชียง จึงแจ้งไปยัง สนง.วัฒนธรรม จ.อุดรธานี แจ้งต่อให้กรมศิลปากรส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ กระดูกสัตว์ อาวุธเครื่องใช้เครื่องประดับ ทำจากหิน เช่น ใบขวาน ปลายหอก ปลายธนู กำไลข้อมือ และหม้อดินลวดลายคล้ายกับไหบ้านเชียง จึงมีคำสั่งให้หยุดการปรับพื้นที่รอการตรวจสอบ
ด้าน นายดุสิต ทุมมากรณ์ ผอ.กลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น นำผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พร้อมคณะตรวจสภาพพื้นที่ พร้อมกับชี้แจงและตอบข้อซักถาม ตั้งแต่แนวปิดกั้นปิดประกาศห้ามเข้า ป้ายแสดงภาพชั้นวัฒนธรรมที่ค้นพบจากความบังเอิญ ไม่มีเจตนาทำลายพื้นที่ ราว 2 งาน, ดูหลักฐานทางโบราณคดี เรียงลำดับตั้งแต่ยุคหินเก่า-หินใหม่ มาจนถึงยุคบ้านเชียงตอนต้นและกลาง, จุดที่มีการขุดค้นจุดที่ต้อง “ปักเสา” ติดตั้งผนังคอนกรีต เพื่อป้องกันดินพังทลายในพื้นที่ 2 งาน และพื้นที่เนินดินด้านข้าง-ด้านหลัง สันนิษฐานว่าคนในยุคหินเก่า-หินใหม่-จนถึงยุคบ้านเชียง ปักหลักกันอยู่ที่นี่
ผอ.กลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น อธิบายว่า บริเวณนี้เป็นเนินดินใช้ทำเกษตรกรรม ไม่เคยพบร่องรอยโบราณวัตถุ หลังขุดค้นพบว่าชั้นวัฒนธรรม จะเริ่มเมื่อลึกลงไปราว 1 เมตรเศษ และชั้นวัฒนธรรมจะทับถมกันอยู่อีกราว 1 เมตร จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ สันนิษฐานว่าที่นี่คือชุมชนโบราณ อยู่บนเนินดินใกล้กับลำห้วยบ่อ ลำน้ำสาขาของลำห้วยหลวง ที่จะไหลไปบรรจบแม่น้ำโขง และยังอยู่ใกล้กับ “บ่อเกลือโบราณ” เป็นพื้นที่เหมาะจะปักหลักเป็นชุมชน
...
"หลักฐานพบมีตั้งแต่ยุคหินเก่า เป็นหินกรวดจากแม่น้ำโขงพบเฉพาะที่นี่ ใกล้เคียงไม่พบ น่าจะนำมาใช้ในการล่าสัตว์ เมื่อทุบให้แตกจะเกิดเป็นคม และดัดแปลงเป็นอาวุธ, จากนั้นมาเป็นยุคหินใหม่ จากการใช้หินกรวดธรรมดา ก็มาใช้หินอื่นๆ เมื่อรู้วิธีทำ พบมีอุปกรณ์ขัดทำรูปทรง ให้เป็นอาวุธ และเครื่องประดับ, ต่อมาเป็นกระดูกมนุษย์ ที่ถูกฝังแบบมีพิธีกรรม กระดูกสัตว์ขนาดใหญ่ และมาถึงหม้อดินเผายุคเดียวกันบ้านเชียงตอนต้น โดยยังไม่พบเหล็ก หรือสำริด" นายดุสิต กล่าว
ผอ.กลุ่มงานโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น กล่าวอีกว่า ได้รายงานให้อธิบดีกรมศิลปากรแล้ว ท่านมีคำสั่งให้ทำแผนการขุดค้น เพื่อศึกษาลำดับการพัฒนาการ หลักการศึกษาจะอธิบายได้ชัดเจน โดยในช่วงฤดูฝนจะได้เตรียมการ สำหรับพื้นที่ 2 งานที่บังเอิญไปพบ เจ้าของที่ดินได้สร้างแนวเขต กันดินที่สูงกว่าพังลงมา และถมดินทับบริเวณที่พบ เพื่อจะประกอบกิจการการค้าได้ ส่วนเนินดินที่มีแผนขุดค้นใหม่ เจ้าของสามารถทำการเกษตรกร แต่หากจะมีกิจกรรมขุดเกินกว่า 1-2 เมตร ให้ขอคำแนะนำจากกรมศิลปากรก่อน
...
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในห้วงที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าพบโบราณวัตถุในพื้นที่ อ.สร้างคอม ได้มอบหมายให้นายอำเภอทำความเข้าใจกับเจ้าของที่ดินตรงจุดที่ขุดค้นพบและที่ดินบริเวณใกล้เคียง ในเรื่องการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ว่าควรจะได้รับคำปรึกษาจากกรมศิลปากรก่อน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของที่ดินเป็นอย่างดี ส่วนพี่น้องประชาชนส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ให้ระมัดระวังการเข้ามาในจุดนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่และทาง อ.สร้างคอม เพื่อที่จะรักษาไว้
...
“เท่าที่สอบถามกรมศิลปากร ทราบว่า จะมีการขยายการขุดค้นให้กว้างมากขึ้น เพื่อศึกษาพื้นที่ ศึกษาโบราณวัตถุในพื้นที่แห่งนี้ จังหวัดอุดรธานีเองจะให้ความร่วมมือในทุกๆเรื่อง ส่วนที่เป็นห่วงคือเรื่องบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาหาประโยชน์ในพื้นที่ เจ้าของที่ดินเองก็ให้ความร่วมมือ แต่เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีรั้วรอบขอบชิด ก็ได้ขอความร่วมมือจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลพื้นที่ในเบื้องต้น