แม่เลี้ยงของผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าปาดคอแทงโหดยายกับน้องสาว ตายคาบ้าน 2 ศพ ปมทะเลาะเรื่องมรดกบ้านที่ร้อยเอ็ด เปิดใจ ยันไม่ได้แย่งบ้านมา แต่ได้มาตามกฎหมาย ชี้ คนร้ายโหดเหี้ยมอำมหิต ขอให้โดนประหาร

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 65 เวลา 17.30 น. พ.ต.ท.สุชาติ สีดวงดี สารวัตรสอบสวน สภ.หนองพอก ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมภายในบ้านปูน 2 ชั้น ในพื้นที่ ม.12 ต.หนองพอก อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณชั้น 1 พบศพ นางกลม สุตนนท์ อายุ 97 ปี สภาพศพนอนอยู่ที่นอนในห้องโถงชั้น 1 สภาพศพมีรอยปาดด้วยของมีคมที่ต้นคอ แผลยาวประมาณ 10 ซม. ลึกประมาณ 4-5 ซม. ใกล้กันพบศพ นางสาวนิภาพร จันทะโยธา อายุ 32 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าในห้องน้ำชั้น 1 นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ในจุดเกิดเหตุมีมีดทำครัวยาวประมาณ 15 ซม. ปักอยู่ที่บริเวณท้ายทอย เบื้องต้นได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และสามารถจับกุม นายธนาวัฒน์ จันทะโยธา หรืออาร์ต อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุได้ โดยให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

...

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุภายในบ้านที่เกิดเหตุในพื้นที่ ม.12 บ.โคกนาคำ ต.หนองพอก อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของเหยื่อที่ถูกฆ่าปาดคอทั้ง 2 ราย ซึ่งผู้ตายคือนางกลม สุตนนท์ อายุ 97 ปี และนางสาวนิภาพร จันทะโยธา อายุ 32 ปี (ครูอ้น) บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มาร่วมงาน

สอบถาม นางสุภาภรณ์ จันทะโยธา อายุ 53 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วัน ลูกเลี้ยงได้โทรไปหาลูกสาวของตนที่ไปสอนพิเศษที่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร แต่เนื่องจากลูกสาวติดสอนอยู่จึงไม่ได้รับสาย ซึ่งพบว่ามีการโทรเข้า 5-6 สาย หลังจากนั้นในช่วงเย็นลูกสาวก็โทรมาบอกให้ตนดูแลตัวเอง เพราะกลัวว่าลูกเลี้ยงจะเข้ามาหาเรื่อง หรือจะมาทำร้าย

นางสุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเธอไปแย่งมรดกพ่อที่เสียชีวิตไม่เป็นความจริง ชี้ตัวผู้ก่อเหตุจิตใจโหดเหี้ยมฆ่ายายและน้องสาวตัวเอง แล้วยังมาโยนความผิดใส่ร้ายเธออีก ซึ่งเรื่องราวที่เธอฟ้องหย่ากับสามี เพราะสามีนอกใจไปมีคนอื่น ศาลยังไม่ตัดสิน ระหว่างรอศาลตัดสิน ปรากฏว่าสามีเสียชีวิตไปก่อน และตามกฎหมายหากสามีเสียชีวิต มรดกสามีก็เป็นของภรรยา

จากนั้นเธอได้พูดคุยกับลูกเลี้ยงจะซื้อบ้านหลังใหม่และรถให้ แต่ลูกเลี้ยงปฏิเสธ ลั่นอยากได้มรดกพ่อเท่านั้น เธอจึงบอกให้ไปฟ้องทวงสิทธิ์คืน พอศาลตัดสินทรัพย์สมบัติแบ่งเป็นสามส่วน ของเธอ ลูกสาว และลูกเลี้ยง ลูกเลี้ยงก็ไม่พอใจอีก เจ็บแค้นใจแล้วมาก่อเหตุสลด วอนตำรวจให้ความเป็นธรรม และอยากให้ผู้ต้องหารับโทษประหารชีวิต เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรม.