ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งสำนักพุทธตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังโซเชียลแชร์คลิปว่อน รักษาการเจ้าอาวาส ร่วมวงร่ำสุรา เถียงลิ้นพัน ดื่มกินป้องกันโควิด พูดอ้อแอ้ เอ่ยชื่อ ส.ส. บอกนายอำเภอก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดศรีพนาวาส บ้านหัวนากลาง ม.3 ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการแชร์คลิปเจ้าหน้าที่เข้าพูดคุยกับพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ในวงเหล้า ในศาลาพักร้อน ห่างจากกุฏิที่พักสงฆ์ประมาณ 20 เมตร ซึ่งมีอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ตรงหน้า ขณะที่พระสงฆ์มีลักษณะเหมือนเมาสุรา โดยคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในโซเชียลอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ซึ่งในคลิป พระรูปดังกล่าวยังได้เอ่ยถึงผู้ใหญ่บ้านว่าทำผิด 157 และเอ่ยชื่อ ส.ส.ขอนแก่น ทั้งยังบอกว่า นายอำเภอก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่หมู่บ้าน ได้ติดต่อกับผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะผู้นำชุมชน เพื่อสอบถามรายละเอียดกรณีดังกล่าว แต่ผู้ใหญ่บ้านบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมพูดคุย จึงได้สอบถามชาวบ้านที่จับกลุ่มกันในวัด และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าว โดยนายพจน์ สะเดา อายุ 69 ปี ชาวบ้านและเป็นกรรมการวัด พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่เกิดเหตุ ที่พระสงฆ์ นั่งในวงเหล้าซึ่งเป็นศาลา อยู่ทางด้านทิศตะวันออกและอยู่ติดกับครัวของวัด
...
นายพจน์ สะเดา กล่าวว่า คลิปดังกล่าว มีชาวบ้านถ่ายไว้เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะมีการถ่ายคลิปนั้น ในช่วงกลางวัน พระพิทักษ์ สุภกิจจะโจ อายุ 52 ปี รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดศรีพนาวาส ได้มีการว่าจ้างชาวบ้านมาตัดต้นไม้ที่ปากทางเข้าวัด เพื่อเตรียมสร้างประตูวัด ช่วงค่ำชาวบ้านตัดต้นไม้เสร็จ จึงพากันซื้อสุรา อาหารมานั่งดื่มกินที่ศาลาพักร้อนในวัดและเปิดเพลงเสียงดังด้วย ประมาณ 3 ทุ่ม พระพิทักษ์ ได้มานั่งร่วมวงด้วย และขอสุรา 1 เป๊กจากชาวบ้านเอามาบีบมะนาวใส่ลงไปผสมในสุรา โดยบอกว่าจะดื่มกินป้องกันโควิด จากนั้นก็มีการนั่งร่วมวงกัน กระทั่งมีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ
นายพจน์ กล่าวอีกว่า พระพิทักษ์ บวชมา 11 พรรษาแล้ว มาจำพรรษาที่วัดศรีพนาวาส ประมาณ 6-10 ปี และเมื่อเจ้าอาวาสวัดละสังขารในปี 2564 ก็ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นความผิดปกติ และมีการพัฒนาวัด ทำนุบำรุงพระศาสนามาโดยตลอด กระทั่งคืนวันที่ 4 พ.ค.มานั่งร่วมวงเหล้ากับชาวบ้าน จนมีคนถ่ายคลิปและแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก็พบว่าเป็นคนจริง
“เรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าไม่ถูกต้อง พระสงฆ์ต้องไม่ดื่มสุรา ไม่ร่วมวงสุรา เมื่อประพฤติผิดก็ควรออกจากวัดไป ซึ่งทราบว่าพระพิทักษ์ หนีออกจากวัดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากชาวบ้านไม่ใส่บาตรให้ และชาวบ้านก็แยกกันเป็นสองฝ่าย มีฝ่ายที่อยากให้อยู่ต่อและให้อภัย กับอีกฝ่ายที่ต้องการให้ออกจากวัด ออกจากหมู่บ้านไป จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้วัดและศาสนาเสื่อมเสีย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าพระพิทักษ์ไปอยู่ที่วัดป่าหนองปลาหมอ บ้านหนองปลาหมอ ต.หนองปลาหมอ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น”
ทางด้าน นางถวิล สะเดา อายุ 65 ปี โยมอุปัฏฐาก กล่าวว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพระพิทักษ์จะประพฤติผิดวินัยสงฆ์ เพราะที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี ไม่มีความผิดปกติ แต่เมื่อพระดื่มสุราก็ถือว่าเป็นการทำผิด โดยชาวบ้านเห็นคลิปในเช้าวันที่ 5 พ.ค.ต่างก็รับไม่ได้ และชาวบ้านก็ไม่ยอมใส่บาตร เสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย จึงแนะนำให้พระพิทักษ์ออกจากวัดไปก่อน เรื่องเงียบสงบค่อยกลับมา เพราะหากอยู่ในวัดต่อไปเรื่องก็จะไม่จบ และน่าจะมีแต่ความวุ่นวายเพิ่มขึ้น พระพิทักษ์จึงตัดสินใจออกจากวัดไปอยู่ที่วัดอื่นก่อน
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบที่วัดป่าหนองปลาหมอ บ้านหนองปลาหมอ ต.หนองปลาหมอ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเดิมประมาณ 5 กม. ไม่พบตัวพระพิทักษ์ ซึ่งทราบจากพระในวัดว่า พระพิทักษ์มาอยู่ที่วัดป่าจริง แต่ได้ขับรถยนต์สีขาวออกไปข้างนอก และไม่ทราบว่าไปที่ใด
ในขณะที่นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงคลิปพระสงฆ์ ร่วมวงสุรา ตามที่มีการแชร์คลิปในโซเชียลว่า หลังจากเห็นคลิปในโซเชียล ได้สั่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น และนายอำเภอชนบท ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีพฤติกรรมที่ร่วมวงและดื่มสุราก็ถือว่าไม่ควรและไม่เหมาะสมอย่างมาก แต่เนื่องจากคลิปที่ปรากฏนั้นตรงกับช่วงวันหยุด เจ้าหน้าที่อาจจะมีการตรวจสอบล่าช้าไปบ้าง วันจันทร์น่าจะมีความกระจ่างชัดเจน
...