ประธานสภาทนายความอุดรธานี เผย “ทนายกฤษณะ” ทนายความแม่แตงโมเคยเป็นเสมียนทนาย ก่อนได้ใบอนุญาตและตั้งสำนักงานเอง ว่าความมาได้ 2 ปีถือว่าอายุงานยังน้อย แต่เป็นคนมีบุคลิกดี สุภาพ ชี้ทนายควรให้เกียรติกันและให้โอกาสทำงาน
กรณี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม ได้แต่งตั้ง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เป็นทนายคดีแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมกับส่งจดหมายเตือนนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไม่ให้ยุ่งเรื่องคดี เพราะไม่ไว้ใจ และไม่ได้จ้าง ส่วนทนายตั้มได้สวนกลับแม่แตงโม ให้เช็กประวัตินายกฤษณะ ว่ามีคดีฉ้อโกง มีผู้เสียหายหลายคน แต่แม่แตงโมไม่สนเรื่องในอดีตของทนายความ โดยมีผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตลูกความออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่โดนโกง ซึ่งนายกฤษณะได้ขอโอกาสช่วยคดีแม่แตงโม และจะนำเงินไปจ่ายคืนเจ้าหนี้ทุกคน
ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 มีนาคม นายคณิศร ขุริรัง ประธานสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วรู้จักนายกฤษณะ เพราะก่อนหน้านี้นายกฤษณะ เคยทำงานเป็นเสมียนทนาย ที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี และสอบผ่านได้รับใบอนุญาต หรือตั๋วทนาย เป็นทนายความเมื่อปี 2563 จากนั้นเปิดสำนักงานทนายความที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นายกฤษณะมีบุคลิกที่สุภาพ แต่รายละเอียดอื่นๆ ลึกๆ ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีมาก
"แม้ว่าอายุงานทนายความจะน้อย แต่ว่ามีใบอนุญาต ทนายความต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ไม่ได้อยู่ที่อายุการทำงาน ถึงจะน้อยหรือจะมาก อยู่ที่การศึกษาหาความรู้ การค้นคว้าข้อเท็จจริงข้อกฎหมายการหาแนวฎีกา เช่นกรณีที่นายกฤษณะ เข้าไปดูแล ต้องเข้าไปดูว่าการกระทำโดยประมาท มันเกิดขึ้นแบบใดบ้าง หาแนวฎีกาว่าอย่างไรบ้าง ต้องศึกษาหาข้อมูล"
นายคณิศร กล่าวต่อว่า การตัดสินว่าทนายเก่งหรือไม่เก่งนั้น ทนายความต้องให้เกียรติกัน ต้องให้โอกาส จะไปบอกว่าคนนั้นเก่งหรือไม่เก่ง เราจะไม่พูดแบบนั้นไม่ได้ แต่ลูกความผู้ที่มาปรึกษากฎหมายเขาจะพิจารณาเองว่าคนนี้เป็นอย่างไร ส่วนเรื่องที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องในอดีต หากคิดว่าตัวเองเป็นคนใหม่ คนดี ทุกคนก็สามารถกลับตัวกลับใจได้ เริ่มต้นใหม่ได้ จุดนี้ต้องให้โอกาสกัน สำหรับคดีของคุณแตงโม ตนก็ติดตามบ้างมีข้อมูลนิดหน่อย ฝากถึงนายกฤษณะ ให้ดูในประเด็นตำรวจตั้งข้อหา ทนายความต้องไปดูในข้อเท็จจริงในสำนวน
...